อังกฤษลดกักตัวเหลือ 5 วัน
ลอนดอน – รมว.คมนาคมของสหราชอาณาจักรระบุว่า นักเดินทางที่มาถึงสหราชอาณาจักรจะสามารถลดเวลาการกักตัวเองลงจากเดิม 14 วันเหลือ 5 วันในเดือนธ.ค. หากมีผลตรวจไวรัสเป็นลบ
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. รัฐบาลประกาศว่า จะมีนโยบายการกักตัวใหม่ตั้งแต่ 15 ธ.ค. โดยนักเดินทางนานาชาติจะต้องรับการตรวจโควิด-19 หลังจากกักตัว 5 วัน และหากมีผลตรวจไวรัสเป็นลบ ก็สามารถยุติการกักตัวได้
อย่างไรก็ตาม นักเดินทางจะต้องจ่ายค่าตรวจเอง ซึ่งอาจจะสูงถึง 65 – 120 ปอนด์ ( หรือราว 2,634 – 4,862 บาท) โดยจะทราบผลตรวจใน 48 ชม.จากข้อมูลของ BBC
กฎการกักตัวนักเดินทางนาน 14 วันของสหราชอาณาจักรถูกสายการบินและสนามบินวิจารณ์อย่างหนัก หลังมีการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์รอบแรกในเดือนพ.ค. อุตสาหกรรมเดินทางหยุดชะงักจากไวรัสโคโรนา และมีผู้โต้แย้งว่า มาตรการกักตัวสกัดกั้นไม่ให้ผู้คนเดินทางมาที่สหราชอาณาจักร
รัฐบาลสหราชอาณาจักรยังห้ามการเดินทางจากต่างประเทศ ยกเว้นเฉพาะเพื่อการทำงาน ในช่วงการล็อกดาวน์ครั้งที่ 2 ที่จะยุติลงในวันที่ 2 ธ.ค.
“ นี่เป็นขั้นตอนที่ดีสำหรับอุตสาหกรรม และผมคิดว่าจะช่วยหนุนความเชื่อมั่นของผู้บริโถค จะได้ทราบว่าพวกเขาสามารถจองเที่ยวบินสำหรับวันหยุด และลดเวลาการกักตัวก่อนหน้านี้” โจนาธาน พอลลาร์ด ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของสนามบินแกตวิกกล่าวให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 พ.ย.
นโยบายกักตัวมีผลกับทุกคนที่เดินทางเข้ามาในสหราชอาณาจักร จากประเทศที่ไม่ได้รวมอยู่ใน ‘travel corridor’ โดยมีการอัพเดตรายชื่อประเทศจากสถานการณ์การติดเชื้อในแต่ละประเทศ
“ เนื่องจากมีการตรวจโควิดได้อย่างกว้างขวาง รัฐบาลควรยกเลิกการคุมเข้มการกักตัว และอนุญาตให้พลเมืองเดินทางได้อย่างเสรี เมื่อพวกเขามีผลตรวจโควิดเป็นลบนาน 72 ชม.ก่อนเดินทาง” โฆษกของสายการบินไรอันแอร์ระบุผ่านอีเมล
อเล็กซอง เดอ จูนิอัก ผอ.สมาคมขนส่งทางอากาศนานาชาติกล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ว่า การตัดสินใจของรัฐบาลนั้น “ ไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่เราต้องระวังถึงผลกระทบด้านลบของการกักตัว”
“ เมื่อมีการกักตัว แม้จะ 4 หรือ 5 วัน ก็เป็นอุปสรรคของการจราจรอย่างสมบูรณ์” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลระบุว่า “ การตรวจหาเชื้อหลังกักตัว 5 วัน ให้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมกว่าแค่การตรวจเมื่อเดินทางมาถึง”
ผู้โดยสารจะต้องจองการตรวจหาเชื้อจากรายชื่อผู้ให้บริการของรัฐบาลก่อนเดินทางมาในสหราชอาณาจักร
คำประกาศทำให้หุ้นของธุรกิจเดินทางปรับเพิ่มขึ้นเมื่อวันที่ 24 พ.ย. โดยหุ้นของสายการบินลุฟต์ฮันซาปรับขึ้น 5.9% และพันธมิตรสายการบิน ซึ่งเป็นเจ้าของบริติช แอร์เวย์ ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 5% ในการซื้อขายในตลาดยุโรป