ดับจากโควิด-19 พุ่งทุบสถิติ 2 พัน/วันในสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. สหรัฐฯรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่พุ่งสูงเกิน 2,000 รายต่อวัน เป็นสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นมา จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส
และเพราะไวรัสโคโรนายังคงแพร่ระบาดทั่วสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญออกโรงเตือนว่า มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้ และตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดจะพุ่งขึ้นเรื่อยๆ
ภายใน 18 ธ.ค. จะมีชาวอเมริกันเสียชีวิตกว่า 2,300 รายต่อวัน อ้างอิงจากข้อมูลของสถาบันการแพทย์และสุขภาพของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (IHME)
“ เราคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันจะพุ่งสูงเกิน 2,500 รายต่อวัน ภายในช่วงกลางเดือนม.ค.” IHME ระบุเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทางกลุ่มยังได้ปรับตัวเลขคาดการณ์ของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ขึ้นอีก โดยตอนนี้ ได้ทำนายว่า จะมีชาวอเมริกันเสียชีวิตถึง 471,000 รายภายในวันที่ 1 มี.ค. เพิ่มขึ้นกว่า 30,000 ราย จากการคาดการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อน
หน่วยงานสาธารณสุขทำนายว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จะสูงขึ้นตามยอดผู้ติดเชื้อและผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ย. สหรัฐฯรายงานตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 80,600 รายทั่วประเทศ จากข้อมูลของ COVID Tracking Project และในวันเดียวกัน ก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 187,800 รายทั่วประเทศ สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
“บางทีก็น่าหงุดหงิดเพราะเรารู้ว่าอะไรช่วยได้” ดร.แอนโธนี ฟาวซีกล่าวให้สัมภาษณ์สื่อ “ หากทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันในฐานะประเทศ หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มกัน หรือสถานที่แออัด มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันทำได้ง่ายๆ”
มาตรการง่ายๆสามารถช่วยชีวิตได้ จากข้อมูลของ IHME หากชาวอเมริกันทุกคนสวมหน้ากาก อาจสามารถช่วยชีวิตชาวอเมริกันได้ถึง 65,000 รายภายในวันที่ 1 มี.ค.
ในแคลิฟอร์เนีย ผู้ว่าการรัฐแกวิน นิวซัม ประกาศเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ว่าคำสั่งให้ประชาชนอยู่บ้านจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 21 พ.ย. สำหรับเคาน์ตีที่อยู่ในพื้นที่คุมเข้มสูงสุด คือลอสแองเจลิส ซานดิเอโก ริเวอร์ไซด์ ออเรนจ์และซาคราเมนโต
ทั้งนี้ ประชากรของรัฐแคลิฟอร์เนียประมาณ 94% อยู่ในพื้นที่คุมเข้มสูงสุดในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน มีมาตรการเคอร์ฟิวในรัฐโอไฮโอ ซึ่งผู้ว่าการรัฐไมค์ ดีไวน์ระบุว่า มาตรการเคอร์ฟิวมีผลบังคับใช้ในเวลา 22.00 – 05.00 น. ของทุกคืน เป็นเวลา 21 วัน
ในรัฐอาร์ตันซอ ผู้ว่าการรัฐประกาศปิดสถานที่ซึ่งมีใบอนุญาตขายและบริโภคแอลกอฮอล์ได้ในเวลา 23.00 น.
โดยมาตรการใหม่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 20 พ.ย. จนถึงวันที่ 3 ม.ค.ปีหน้า โดยเสริมว่า มีผลครอบคลุมร้านอาหารและบาร์ รวมทั้งคลับส่วนตัวที่มีใบอนุญาต