ฝรั่งเศสติดเชื้อทะลุ 2 ล้านคน ประเทศแรกในยุโรป
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศแรกในยุโรปที่มีผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 สูงเกิน 2 ล้านราย แม้จะประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศตั้งแต่ 30 ต.ค. ที่ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างชัดเจนก็ตาม จากการประเมินของรอยเตอร์
ทำให้ตอนนี้ ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งหมด 2,036,755 ราย รองจากสหรัฐฯ อินเดีย และบราซิล โดยมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 45,000 ราย เป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดนี้มากเป็นอันดับ 7 ของโลก
จนถึงตอนนี้ ยุโรปรายงานผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 สูงเกือบ 14.5 ล้านราย ทำให้เป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในโลกจากไวรัสโคโรนา และมีผู้ติดเชื้อทั้งหมดคิดเป็นกว่า 26% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในโลก อ้างอิงจากการประเมิน
หลังจากเคยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นสูงสุดเกือบ 87,000 รายในวันเดียวเมื่อวันที่ 7 พ.ย. อัตราการติดเชื้อในฝรั่งเศสลดลงอย่างชัดเจน ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ต่ำที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือนในวันที่ 16 พ.ย. โดยตัวเลขในวันจันทร์.มีแนวโน้มจะลดลงเนื่องจากมีการตรวจหาเชื้อน้อยในทุกวันอาทิตย์
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. รมว.สาธารณสุข โอลิวิเยร์ เวรองระบุว่า ประเทศฝรั่งเศสสามารถกลับมาควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้แล้ว แต่ยังไม่พร้อมที่จะคลายมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบสองที่มีอยู่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส
แม้จะมีผู้ติดเชื้อรายวันลดลง แต่จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโควิด-19 ในโรงพยาบาลกลับสูงเป็นประวัติการณ์ และฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของยุโรป รองจากสหราขอาณาจักรและอิตาลี
รัฐบาลของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงตั้งเป้าว่าจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 1 ธ.ค. แม้อาจจะมีการขยายเวลาการล็อกดาวน์ออกไปอีก หากจำนวนผู้ติดเชื้อไม่ลดลงอย่างรวดเร็วพอ