ซูเปอร์มาร์เก็ตสหรัฐฯ หุ้นร่วงจากทรัมป์
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. หุ้นของผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของสหรัฐฯ ลดต่ำลงเนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงวิจารณ์เม็กซิโกซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ด้านอาหารให้กับผู้บริโภคในสหรัฐฯ
หนึ่งวันหลังจากทำเนียบขาวรายงานว่า สหรัฐฯ ควรจัดเก็บภาษี 20 %ในสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก หุ้นของวอล-มาร์ทและโครเกอร์ลดลงมากกว่า 1% ขณะที่หุ้นของโฮลฟู้ดมาร์เก็ตลดลง 2.8%
ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงซ้ำเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ว่าเม็กซิโก ซึ่งเป็นผู้ส่งออกผัก ผลไม้และเบียร์รายใหญ่ ได้เปรียบสหรัฐฯ มาโดยตลอด โดยเขาเปรียบเปรยว่า เม็กซิโกเอาเปรียบสหรัฐฯจนเข้าไปถึงเนื้อในเลย ซึ่งเป็นถ้อยแถลงที่สร้างความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตระหว่างประเทศคู่ค้าทั้งสองประเทศ
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ประธานาธิบดีเอนริเก เปนา นิเอโต ยกเลิกแผนการเดินทางไปเยือนวอชิงตันเพื่อพบกับผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งแสดงเจตนาชัดเจนที่จะให้เม็กซิโกจ่ายค่าสร้างกำแพงกั้นพรมแดนกับสหรัฐฯ เพื่อลดจำนวนผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยประธานาธิบดีมรัมป์ได้กล่าวในภายหลังว่า ภาษีที่จัดเก็บจากเม็กซิโกเพิ่มอีก 20% นั้นจะถูกนำมาใช้ในการสร้างกำแพง
ทั้งนี้ เม็กซิโกเป็นซัพพลายเออร์และผู้ส่งออกสินค้าทางการเกษตรไปสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในปี 2558 อ้างอิงจาก สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา หรือ USTR
โดยเม็กซิโกส่งออกสินค้าเกษตรไปสหรัฐฯ ในปี 2558 ด้วยมูลค่าสูงถึง 21,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พุ่งทะยานเพิ่มขึ้นถึง 191% จากปี 2536 ก่อนที่ทั้งสองประเทศและแคนาดาจะทำข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือหรือ NAFTA 2 ปีก่อนหน้านี้
สหรัฐฯ บริโภคมะเขือเทศที่ปลูกได้ในประเทศเกือบทั้งหมด นำเข้ามาเพียง 6% อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงเกษตร แต่ในส่วนมะเขือเทศที่นำเข้ามานั้น เป็นการนำเข้าจากเม็กซิโกถึง 71% ที่เหลือเป็นการนำเข้าจากแคนาดา
ภาษีใหม่ที่จะจัดเก็บกับอาหารนำเข้าจากเม็กซิโกจะสร้างความยุ่งยากในการตัดสินใจของซูเปอร์มาร์เก็ตหลายรายในสหรัฐฯ เนื่องจากอาจต้องขึ้นราคาสินค้า หรือยอมที่จะได้กำไรน้อยลง
หุ้นของโครเกอร์และวอล-มาร์ทลดลงประมาณ 3% ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะทำพิธีสาบานตน ขณะที่หุ้นของซิสโกซึ่งเป็นผู้ค้าส่งรายใหญ่ลดลงประมาณ 1.5%.