เตือนอังกฤษถึงจุดระบาดหนัก
ลอนดอน – เมื่อวันที่ 20 ก.ย. แมตต์ ฮันค็อก รมว.สาธารณสุขของสหราชอาณาจักรออกโรงเตือนว่า อาจมีมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบสอง หากประชาชนไม่ปฏิบัติตามกฎของรัฐบาลที่กำหนดมาเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้เป็นมากกว่า 4,000 รายต่อวัน โดยนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันระบุว่าเป็นการระบาดในระลอกสอง และทำให้มีมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยกรุงลอนดอนอาจเป็นเมืองต่อไป
“ ประเทศกำลังประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เป็นจุดพลิกผันอย่างรุนแรง และเราไม่มีทางเลือก” รมว.ฮันค็อกกล่าวกับสื่อ “ ทางเลือกคือทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎ ไม่เช่นนั้น เราจะมีมาตรการคุมเข้มมากขึ้น”
โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในประเทศว่า ทางเลือกที่เป็นไปได้คือมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบสอง
เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นายกฯจอห์นสันประกาศโทษปรับจำนวน 10,000 ปอนด์สำหรับชาวอังกฤษที่ละเมิดกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้มีการแยกกักตัวเอง หากพวกเขามีการสัมผัสติดต่อกับผู้ติดเชื้อโควิด-19
นอกจากความเข้มงวดกับการอยู่รวมกันทางสังคมทั่วประเทศ หลายเมืองและภูมิภาคในสหราชอาณาจักรมีมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ จำกัดทั้งสถานที่และจำนวนคนที่มารวมกลุ่มกันทางสังคมอย่างเข้มงวด
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเห็นของซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ซึ่งระบุเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ว่า มีแนวโน้มว่าจะมีมาตรการคุมเข้มมากขึ้นในเมืองหลวง ฮันค็อกตอบว่า “ ผมได้มีการพูดคุยกับนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนในสัปดาห์นี้ และทีมทำงานหลายทีมมีประชุมในวันนี้เพื่อปรึกษาว่าจะมีมาตรการอะไรต่อไป”
เขายังถูกถามในระหว่างการสัมภาษณ์ที่สถานีวิทยุเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ประชาชนในเมืองหลวงจะถูกขอให้ทำงานที่บ้านในสัปดาห์นี้ เขาตอบว่า “ ผมยังไม่ตัดเรื่องนี้ออกไปนะ”
เคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านระบุว่า เขาจะสนับสนุนมาตรการใดก็ตามที่รัฐบาลนำเสนอต่อประชาชน แต่เขาวิจารณ์ระบบตรวจสอบหาเชื้อของรัฐบาลที่ไม่มีศักยภาพเพียงพอในการรองรับกับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น เมื่อโรงเรียนกลับมาทำการเรียนการสอนอีกครั้ง