ออสเตรเลียติดเชื้อใหม่ต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์
ซิดนีย์ : เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ออสเตรเลียรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดในวันเดียว ขณะที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่ำที่สุดในรอบเกือบสองเดือน
รัฐวิกตอเรียที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ถึง 41 ราย โดย 22 รายมาจากสถานดูแลผู้สูงอายุหลายสัปดาห์ก่อนวันที่ 27 ส.ค. โดยก่อนหน้านี้ วันที่ 25 ส.ค. ออสเตรเลียเคยมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดคือ 25 ราย
โดยทางรัฐระบุว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 73 ราย ในรอบ 24 ชม. ต่ำที่สุดตั้งแต่ 3 ก.ค.เป็นต้นมา
มาตรการล็อกดาวน์จะยุติลงในวันที่ 13 ก.ย. และเมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง มุขมนตรีของรัฐคือแดเนียล แอนดรูว์ส ระบุว่าจะชี้แจงรายละเอียดของการคลายล็อกอย่างค่อยเป็นค่อยไปในวันที่ 6 ก.ย.
“ ผมอยากให้แน่ใจว่า เราจะมีวันคริสต์มาสที่ใกล้จะเป็นปกติมากที่สุด” แอนดรูว์สกล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมลเบิร์น
“ หากเราคลายล็อกเร็วเกินไป หากเราทำเหมือนไล่ล่าบางอย่างที่เกิดขึ้นแค่ไม่กี่สัปดาห์ หากเราลืมว่าเป็นโรคระบาด และคิดแค่ว่ามันเป็นการแข่งขันชิงความนิยม วันคริสต์มาสก็จะไม่กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมอีกเลย”
จนถึงตอนนี้ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีประชากร 25 ล้านคน มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมเกือบ 26,000 ราย และมีผู้เสียชีวิต 652 รายตั้งแต่ต้นปีนี้ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดในประเทศ
ขณะที่ออสเตรเลียหลีกเลี่ยงไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากได้ แต่มาตรการคุมเข้มเพื่อสกัดไวรัสโคโรนาก็ส่งผลกระทบสำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศ
การคลายล็อกดาวน์ทั่วรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรอาศัยอยู่มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ จะช่วยหนุนเศรษฐกิจออสเตรเลีย ซึ่งกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบเกือบสามทศวรรษ จากอัตราการว่างงานที่พุ่งถึง 13%
จอช ไฟรเดนเบิร์ก รมว.คลังระบุว่า รัฐบาลกลางจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจประมาณ 314,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 15.8% ของจีดีพี และรัฐบาลท้องถิ่นต้องใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้น ไม่เกิน 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างนิวซีแลนด์ รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 รายในวันที่ 30 ส.ค. ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,378 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตคงที่คือ 22 ราย
นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นระบุว่า จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมืองโอ๊กแลนด์ตั้งแต่ 31 ส.ค.เป็นต้นไป แต่อาจมีการคุมเข้มอีกครั้งหากจำเป็น
มีการจำกัดจำนวนการรวมตัวกันและการเคลื่อนไหวในสถานที่สาธารณะในเมืองโอ๊กแลนด์ อย่างไรก็ตาม มีการกำหนดให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยทั่วประเทศตั้งแต่ 31 ส.ค.นี้เป็นต้นไป
นายกฯอาร์เดิร์นระบุในการแถลงทางโทรทัศน์ว่า มาตรการคุมเข้มได้ผลดี “มาตรการนี้ทำให้เราดำเนินยุทธศาสตร์ในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้ ”
ทั้งนิวซีแลนด์และออสเตรเลียพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้มากกว่าประเทศอื่นๆ โดยบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศก็ต้องแลกความสำเร็จในการสกัดการระบาดของโควิด-19 กับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากตัวเลขจีดีพีที่ปรับลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ