นิวซีแลนด์ขยายล็อกดาวน์/ออสเตรเลียติดเชื้อลดลง
รอยเตอร์ – เมื่อวันที่ 24 ส.ค. นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นแห่งนิวซีแลนด์ประกาศขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์ในเมืองโอ๊กแลนด์ออกไปจนถึงสุดสัปดาห์ และกำหนดให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในขนส่งสาธารณะทั่วประเทศ
โดยนายกฯอาร์เดิร์นระบุว่า การขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์ออกไปอีก 4 วัน ในเมืองโอ๊กแลนด์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ประเทศลดขนาดมาตรการคุมเข้มฉุกเฉิน และยังคงอยู่ที่ระดับเข้มงวดน้อยลง
“ เราอยากให้มีทั้งความเชื่อมั่นและความแน่นอนสำหรับทุกคน” อาร์เดิร์นระบุในการแถลงข่าวทางโทรทัศน์
มาตรการล็อกดาวน์เมืองโอ๊กแลนด์ ซึ่งมีขึ้นในวันที่ 11 ส.ค. หลังทางการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศรายแรกในช่วงเวลากว่า 3 เดือน มีกำหนดสิ้นสุดลงในวันที่ 26 ส.ค. แต่ตอนนี้ขยายเวลาไปสิ้นสุดในคืนวันที่ 30 ส.ค.
โดยนายกฯอาร์เดิร์นระบุว่า ทางเมืองโอ๊กแลนด์ค่อยๆ ลดระดับมาตรการคุมเข้มจากระดับ 3 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2 ตั้งแต่ 24 ส.ค.
มีประมาณ 150 รายที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นส่วนหนึ่งของคลัสเตอ์ที่อุบัติขึ้นในโอ๊กแลนด์ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ถึง 1.7 ล้านคน แต่ผู้ติดเชื้อรายวันชะลอตัวลงเป็นเลขตัวเดียวในช่วง 3 วันที่ผ่านมา
อาร์เดิร์นระบุว่า เพื่อคงระดับการควบคุมขณะที่โอ๊กแลนด์คลายมาตรการลงมาเป็นระดับ 2 ซึ่งอนุญาตให้มีการเปิดโรงเรียนและร้านค้า และจะมีการกำหนดไม่ให้ประชาชนอยู่รวมกันในที่สาธารณะเกิน 10 คน
พื้นที่อื่นในนิวซีแลนด์จะยังคงอยู่ในมาตรการระดับ 2 แต่ห้ามประชาชนอยู่รวมกันในที่สาธารณะเกิน 100 คน
ขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านอย่างออสเตรเลียรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือนเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ทำให้เกิดความหวังว่าการระบาดระลอกสองกำลังลดลง
รัฐวิกตอเรีย , นิวเซาธ์เวลส์ และควีนส์แลนด์รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 120 รายในรอบ 24 ชั่วโมง โดยรัฐวิกตอเรียมีผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในเมืองเมลเบิร์น เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดล่าสุด โดยก่อนหน้านี้ วิกตอเรียรายงานผู้ติดเชื้อสูงถึง 700 รายในวันเดียว
รัฐอื่นๆไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบหลายสัปดาห์ โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสามารถกำจัดไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่มีตัวเลขใหม่ที่ทำให้ประหลาดใจ โดยตัวเลขวันที่ 24 ส.ค.เป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อต่ำที่สุดในวันเดียว นับตั้งแต่ 5 ก.ค.เป็นต้นมา
“ เราเริ่มคงที่และจะลดเป็นตัวเลข 2 หลักเร็วๆนี้ ” เจนนี มิคาคอส รมว.สาธารณสุขรัฐวิกตอเรียกล่าวกับสื่อในเมลเบิร์น
นิก โคสต์เวิร์ธ รมช.สาธารณสุขออสเตรเลียระบุว่า “ เป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เป็นความเชื่อมั่นสำคัญว่าแนวโน้มการติดเชื้อโดยรวมกำลังลดลง”
ทั้งนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 25,000 ราย และมีผู้เสียชีวิต 51 ราย