ตายทั่วโลกจากโควิด-19 ทะลุ 8 แสนคน
(รอยเตอร์) – ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากโรคระบาดโควิด-19 พุ่งสูงทะลุ 8 แสนรายจากการประเมินของสื่อรอยเตอร์ โดยประเทศที่มีผู้ป่วยเสียชีวิตมากที่สุดคือสหรัฐฯ บราซิลและอินเดีย
โดยค่าเฉลี่ยคือมีผู้เสียชีวิตจากโควิด -19 เกือบ 5,900 ราย ทุก 24 ชม.จากการคำนวณของรอยเตอร์บนพื้นฐานข้อมูลในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 21 ส.ค.
ซึ่งหมายความว่ามีผู้เสียชีวิตมากถึง 246 รายต่อชั่วโมง หรือ 1 รายต่อทุก 15 วินาที
อัตราการเสียชีวิตค่อนข้างคงที่ โดยใช้เวลา 17 วัน เพิ่มจาก 700,000 รายเป็น 800,000 ราย เท่ากับช่วงเวลาที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มจาก 600,000 รายเป็น 700,000 ราย
โดยเมื่อวันที่ 23 ส.ค. จำนวนผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ สูงเกิน 170,000 ราย ยังคงสูงเป็นอันดับ 1 ในโลก ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงจากที่เคยพุ่งสูงสุดในเดือนก.ค. แต่ยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 360,000 รายต่อสัปดาห์
โรงเรียนและมหาวิทยาลัยจำนวนมากเปิดเรียน แม้อัตราการติดเชื้อจะสูงเกือบ 20% ในบางพื้นที่ของประเทศ ไม่ถึงสัปดาห์หลังเปิดเรียน โรงเรียนบางแห่งเปลี่ยนกลับไปทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เนื่องจากมียอดติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น
ในอินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงเกิน 50,000 ราย ใช้เวลา 5 เดือน หลังจากประเทศรายงานผู้เสียชีวิตรายแรกจากไวรัสโคโรนา
จนถึงตอนนี้ อินเดียมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐฯและบราซิล คือสูงเกิน 3 ล้านรายแล้ว แต่มีอัตราเสียชีวิตค่อนข้างต่ำคือ 1.9% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 3.5% ของโลก แต่อาจเป็นเพราะรายงานตัวเลขต่ำกว่าความเป็นจริง
โดยในสหรัฐฯและบราซิล อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 อยู่ที่ประมาณ 3%
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขออกโรงเตือนว่าสหรัฐฯและบราซิลยังคงไม่มีแผนงานบูรณาการในการต่อสู้กับโรคระบาด เนื่องจากหลายรัฐให้ความสำคัญกับการเปิดเรียนและธุรกิจ ซึ่งมีแนวโน้มจะทำให้มีการแพร่ระบาดมากขึ้น
ในบราซิล ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด -19 สูงเกิน 100,000 รายในวันที่ 8 ส.ค. และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลายเมืองในบราซิลเปิดร้านอาหารและชาวเมืองยังคงรับประทานอาหารนอกบ้าน แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงย่ำแย่ก็ตาม
ดร.เทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผอ.ใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า เขาหวังว่าการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกจะจบลงภายในเวลาไม่ถึงสองปี
โดยทาง WHO ยังแนะนำให้เด็กอายุมากกว่า 12 ปีสวมหน้ากากอนามัยเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ เพื่อเป็นการหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสด้วย