ค้าปลีกสหรัฐฯ โตเกินคาด
ยอดขายค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาขยายตัวสูงเกินคาดการณ์ในเดือน ต.ค. ด้วยแรงหนุนสำคัญจากยอดขายรถยนต์ อ้างอิงจากสถิติล่าสุด
ข้อมูลนี้เป็นหลักฐานล่าสุดที่ยืนยันว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังมีการขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งและช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน ธ.ค.นี้
โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดค้าปลีกในเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.และปรับเพิ่มขึ้น 4.3% จากเดือนเดียวกันในปี 2558
นอกจากนี้ ตัวเลขยอดขายที่เพิ่มขึ้นในเดือน ก.ย.ได้รับการปรับแก้ไขเพิ่มเป็น 1% จากตัวเลขเดิมคือ 0.6%
ทำให้ตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐฯ ในเดือนก.ย.และเดือนต.ค. รวมกันกลายเป็นการขยายตัวสูงที่สุดของช่วงเวลา 2 เดือน นับตั้งแต่ต้นปี 2557 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า มีดีมานด์ที่แข็งแกร่งในประเทศจากวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างหลังจากเกิดเหตุพายุเฮอริเคนแมทธิวถล่มสหรัฐฯ ทำให้ต้องมีการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 1.1% หลังจากมีการปรับเพิ่มขึ้นถึง 1.9% ในเดือน ก.ย. การใช้จ่ายในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือน ต.ค.เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่ปรับสูงขึ้น
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นขานรับข้อมูลล่าสุดนี้ โดยมีการวิเคราะห์ว่า มีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.นี้
ต้นเดือนพ.ย.นี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ รายงานว่า จะมีการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 13 – 14 ธ.ค.โดยมีแนวโน้มว่าอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 161,000 งานในเดือน ต.ค.และจากข้อมูลเดียวกันที่เผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นว่า จำนวนการจ้างงานในเดือน ส.ค.และ ก.ย.ทั้งสองเดือนปรับเพิ่มขึ้น.