‘ทรัมป์’ เซ็นคำสั่งยกเลิกสถานะพิเศษฮ่องกง
วอชิงตัน : เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตอกย้ำจุดยืนที่มีกับจีนด้วยการลงนามในกฎหมายและคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อตอบโต้จีนที่กดดันให้ฮ่องกงใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่
โดยทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเพื่อลงโทษธนาคารที่ทำธุรกรรมกับทางการจีน ซึ่งเพิ่งออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง
เขาระบุว่า เขายังได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีที่ตั้งเป้าเพื่อลงโทษจีนที่กระทำการ “กดขี่ข่มเหง ” ฮ่องกง
โดยสหรัฐฯจะยกเลิกสถานะพิเศษทางการค้าที่ให้กับฮ่องกงมานานหลายปี “ ไม่มีสิทธิพิเศษ ไม่มีข้อตกลงเศรษฐกิจพิเศษ และไม่มีการส่งออกเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหว” ทรัมป์ระบุในการแถลงข่าว
“ฮ่องกงจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ ” เขากล่าว
จากเอกสารของทำเนียบขาว คำสั่งประธานาธิบดียังรวมถึงการเพิกถอนการได้รับการดูแลเป็นพิเศษของผู้ถือพาสปอร์ตฮ่องกงอีกด้วย
ทรัมป์และไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ได้กล่าวโทษจีนว่าเป็นประเทศที่แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (ซึ่งจีนปฏิเสธ) และวิจารณ์จีนที่มีการปราบปรามผู้ประท้วงในฮ่องกง
ฮ่องกงซึ่งเป็นอดีตอาณานิคมของอังกฤษ กลับคืนมาอยู่ในการปกครองของจีนเมื่อปี 2540 โดยมีกฎหมายที่คุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมและสื่อจนถึงปี 2590
กฎหมายที่ทรัมป์เซ็นเป็นการคว่ำบาตรทางการจีนและผู้อื่นที่ช่วยกันละเมิดอธิปไตยของฮ่องกง และสถาบันทางการเงินที่ทำธุรกรรมกับผู้ที่พบว่ามีส่วนร่วมในการปราบปรามผู้ประท้วงในฮ่องกง
ทั้งนี้ ทรัมป์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเนื่องจากจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.และการรับมือกับการระบาดโควิด-19 ของเขาที่ทำให้ชาวอเมริกันเสื่อมศรัทธา ทรัมป์กล่าวโทษจีนที่ไม่มีมาตรการเพียงพอในการสกัดการระบาดของไวรัสโคโรนา
“ เราคิดว่าจีนต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่สำหรับการปกปิดข้อมูลของไวรัส และปล่อยมันแพร่ระบาดไปทั่วโลก จีนควรจะสกัดไว้ได้ มันจะง่ายกว่ามากถ้าทำตั้งแต่แรกที่มันเกิดขึ้น ” เขากล่าว
ขณะที่ปอมเปโอกล่าววิจารณ์จีนอย่างรุนแรงในประเด็นการส่งกำลังทหารเข้าไปในทะเลจีนใต้ โดยระบุว่าจีนไม่มีสิทธิตามกฎหมาย และเป็นการคุกคามประเทศเพื่อนบ้าน
“ โลกจะไม่ยอมให้จีนทำเหมือนกับว่าทะเลจีนใต้เป็นอาณาจักรทางทะเลของจีน ” ปอมเปโอกล่าว
โรเบิร์ต โอไบรเอน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ อยู่ในกรุงปารีสของฝรั่งเศสในสัปดาห์นี้เพื่อพูดคุยกับประเทศในยุโรปเกี่ยวกับจีนและบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนอย่างหัวเว่ย โดยประเทศในยุโรปต่างแสดงความกังวลว่าเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ยจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศตัวเอง