‘ทรัมป์’ โวว่างงานลดเหลือ 13.3%
(CNN) – เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศชัยชนะด้วยการแจ้งข่าวตัวเลขการว่างงานเดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 13.3% บนทวิตเตอร์
ขณะที่ตัวเลขยังคงสะท้อนถึงระดับการว่างงานอย่างมหาศาลของชาวอเมริกัน แต่อัตราการว่างงานปรับดีขึ้นจากที่เคยเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลที่ 14.7% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นอัตราที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติรายเดือนในปี 2491 เป็นต้นมา โดยสหรัฐฯมีการจ้างงานเพิ่ม 2.5 ล้านอัตราในเดือนพ.ค. หลังจากตำแหน่งงานหายไปถึง 20.7 ล้านอัตราในเดือนเม.ย.
โดยก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิมในเดือนพ.ค. คืออาจจะพุ่งขึ้นไปถึงเกือบ 20% แต่การที่ธุรกิจทยอยเปิดทำการในหลายรัฐทำให้ธุรกิจมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น มากกว่าที่จะปรับลดการจ้างงานลง
“ เป็นรายงานเรื่องงานที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ยกความยอดเยี่ยมให้ประธานาธิบดีทรัมป์ (ล้อเล่นนะ แต่ก็จริง) ! ” ทรัมป์ทวีตหลังมีการเปิดเผยตัวเลขออกมา โดยยกเอาคำชมจากสื่อ Fox Business มาทวีตอย่างต่อเนื่องทั้ง “มหัศจรรย์ ” “เหลือเชื่อ” “น่าทึ่ง” และ “ ยอดเยี่ยม”
ข่าวดีจากรายงานเรื่องอัตราการว่างงานมีขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ เกิดเหตุความไม่สงบจากการประท้วงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้จอร์จ ฟลอยด์นานเกินสิบวันแล้ว ซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจและสาธารณสุขจากโรคระบาดโควิด-19 ที่เป็นอยู่ให้เลวร้ายลงอีก โดยสัญญาณของความไม่เท่าเทียมกันอย่างเป็นระบบคือ อัตราการว่างงานของคนผิวสีอยู่ที่ 16.8% ซึ่งยังคงสูงกว่าอัตราการว่างงานของคนผิวขาวอยู่ที่ 12.4%
ขณะที่ชาวอเมริกันจำนวนมากมองทะลุเข้าไปถึงความอยุติธรรมจากการเหยียดเชื้อชาติที่มีมายาวนานในประเทศสหรัฐฯ แต่ทรัมป์กลับใช้เวลาตลอดช่วงเช้าของเขาด้วยการรีทวีตข้อความกว่า 100 ครั้งจาก 25 วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน
การรีทวีตของทรัมป์มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะช่วยหาเสียงให้ผู้ชิงตำแหน่งคนอื่นๆ ในการลงเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกัน โดยก่อนหน้านี้ วุฒิสมาชิกลิซา เมอร์โควสกีจากรัฐอลาสกากล่าววิจารณ์ทรัมป์และระบุว่าเธอไม่แน่ใจที่จะสนับสนุนทรัมป์
ในวันที่ 4 มิ.ย. ทรัมป์ทวีตถึงจดหมายฉบับหนึ่งจากทนายความของเขาที่ระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงอย่างสันติที่ถูกสลายการชุมนุมใกล้ทำเนียบขาวก่อนที่จะเขาจะเดินไปที่โบสถ์เพื่อถ่ายภาพว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย”
ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ คาดการณ์ว่าจะมีการชุมนุมประท้วงอีกหน้าที่ทำเนียบขาว และจะมีกำลังของหน่วยอารักขาประธานาธิบดี ( Secret Service) เข้ามาประจำการเพิ่มอีกจนถึงวันที่ 10 มิ.ย.