จ้างงานสหรัฐฯ เดือนก.ค.ดีเกินคาด
เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาแข็งแกร่งเกินการคาดการณ์จากจำนวนงาน 255,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ทำให้เกิดการคาดคะเนว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ โดยอัตราการว่างงานในสหรัฐฯ ยังคงอยู่ที่ 4.9% ไม่เปลี่ยนแปลง
นายเดนนิส จองจาก UFX.com กล่าวว่า ตัวเลขเดือนก.ค. เผยให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ก็ไม่น่าตื่นเต้นมากนัก ตัวเลขชี้ให้เห็นถึงการหวนกลับไปสู่สภาวะเดิมใน 6 เดือนแรกของปีนี้
ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดส่งสัญญาณว่า อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จากความเสี่ยงในระยะใกล้ เช่น การจ้างงานที่ชะลอตัวเริ่มห่างออกไป อย่างไรก็ตามข้อมูลชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวเกินคาดการณ์ในไตรมาส 2 ของปีนี้
ทั้งนี้ การประชุมเพื่อกำหนดนโยบายทางการเงินของเฟดจะมีขึ้นในเดือนก.ย. แต่นักวิเคราะห์คิดว่า ธนาคารจะรอดูสถานการณ์ไปอีกระยะก่อนที่จะมีท่าทีใดๆ ออกมา
นายโด ดันแคน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่สถาบันแฟนนี่ เมในกรุงวอชิงตันให้ความเห็นว่า “นี่แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจในมุมมองด้านแรงงานกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่เฟดต้องการ ช่วยสนับสนุนให้เฟดในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในสิ้นปีนี้”
เขากล่าวเสริมว่า “เฟดยังคงรอดูการเคลื่อนไหวของนานาชาติ ธนาคารกลางของอังกฤษออกมาตรการที่ค่อนข้างแรงในสัปดาห์นี้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีข้อมูลเชิงลบที่เด่นชัดจากผลกระทบของเบร็กซิท ธุรกิจจำนวนมากยังคงดำเนินไปได้กับธนาคารในยุโรป”
โดยการขยายตัวมากที่สุดในการจ้างงานของสหรัฐฯ ประมาณ 70,000 ตำแหน่ง มาจากภาคส่วนสายอาชีพและธุรกิจ โดยเฉพาะด้านคอมพิวเตอร์ อุตสาหกรรมด้านสุขภาพกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดงานอย่างสูง มีการรับเพิ่มถึง 43,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว
ส่วนบริษัทเหมืองแร่ มีตัวเลขการจ้างงานใหม่ที่ดิ่งลงมากที่สุดคือลดลงถึง 6,000 ตำแหน่ง โดยตั้งแต่ตัวเลขไต่ระดับสูงสุดในเดือนก.ย.ปี 2557 การจ้างงานในอุตสาหกรรมนี้ก็ลดลงถึง 26%
ค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยปรับขึ้น 0.3% ระหว่างเดือนมิ.ย.-ก.ค. โดยในรอบ 12 เดือนถึงเดือนก.ค. ค่าแรงปรับขึ้น 2.6% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตรายปีเดียวกันกับเดือนมิ.ย.
ในขณะที่การจ้างงานช่วยหนุนตลาด นักลงทุนเรียนรู้ว่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้นที่สุดในรอบ 10 เดือน
กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ รายงานว่า มูลค่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.7% ในเดิอนมิ.ย. อยู่ที่ 44,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมคือ 41,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้
การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ จะฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งหมายความว่าบริษัทในสหรัฐฯ กำลังขายสินค้าไปยังต่างประเทศได้น้อยลง.