โอบามาเตือนศก.โลกป่วนหลังเบร็กซิท
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ อเมริกาให้ความเห็นว่า การออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรจะส่งผลกระทบในระยะยาวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
โดยเขากล่าวว่า เบร็กซิทจะหยุดความเป็นไปได้ในการลงทุนในสหราชอาณาจักร หรือในยุโรปทั้งหมดประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ร้องขอให้นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรและผู้นำของอียูพิจารณาให้ถี่ถ้วนถึงกระบวนการในการออกจากอียู
ก่อนหน้านี้ บรรดาผู้นำในอียูเตือนว่าสหราชอาณาจักรต้องเคารพการตัดสินใจอย่างอิสระของประชาชนถ้าต้องการจะแยกตัวไปเป็นตลาดเดียว
โดยผู้นำอีก 27 ประเทศในอียูจะมีการประชุมกันที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม โดยไม่มีสหราชอาณาจักรร่วมอยู่ด้วยเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 40 ปี
ประธานาธิบดีโอบามาแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการประชุมซัมมิทที่เมืองออตตาวา ในแคนาดากับผู้นำของประเทศแคนาดาและเม็กซิโก โดยสหรัฐฯ มีความตั้งใจที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกาเหนือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เขากล่าวว่า การเตรียมพร้อมของธนาคารกลางและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เศรษฐกิจโลกในระยะสั้นจะชะลอตัวอย่างมั่นคง
แต่เขาเสริมว่า “ผมคิดว่า มีความกังวลอย่างแท้จริงในระยะยาวเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลก ถ้าเบร็กซิทผ่านไปและหยุดความเป้นไปได้ที่จะลงทุนในสหราชอาณาจักรและในยุโรปรวมกันทั้งหมด”
ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กล่าวว่า “ถ้าถึงเวลาที่การขยายตัวทั่วโลกอ่อนแอลง เรื่องนี้ก็ช่วยไม่ได้”
ทั้งนี้ นายโอบามายังคงปกป้องอย่างแข็งขันเรื่องการเปิดเสรีทางการค้าและสัญญาที่จะเร่งแผนการสำหรับข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP)
โดยเขากล่าวข้อความสำคัญถึงสหราชอาณาจักรและเยอรมนีว่า“ทุกคนต้องเอาตัวให้รอด ผมคิดว่าเป็นเรื่องยาก เป็นกระบวนการที่ท้าทายแต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกระบวนการที่ตื่นตระหนกเกินไป”
หลังการประชุม 27 ผู้นำประเทศสมาชิกอียูแถลงว่า “การแยกตัวออกไปเป็นตลาดเดียว ต้องได้รับการยอมรับ ใน 4 อิสรภาพสำคัญ”
4 อิสรภาพสำคัญในตลาดภายในอียูคือ อิสรภาพในการเคลื่อนไหวของสินค้า แรงงาน บริการ และเงินทุน
นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษกล่าวในรัฐสภาในกรุงลอนดอนว่า อิสรภาพในการเคลื่อนไหวเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไข “พูดตามตรง เป็นเรื่องยุ่งยากในอียู ที่ซึ่งคุณมีความสามารถในการเจรจาเพื่อพยายามและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ แต่ผมว่า จะเป็นเรื่องยากยิ่งกว่านี้มากมายถ้าอยู่นอกอียู”