เหตุก่อการร้ายในสนามบินอิสตันบุล
เกิดเหตุก่อการร้ายที่มีทั้งการจู่โจมด้วยปืนและระเบิดที่สนามบินนานาชาติอทาเตอร์ก
ในกรุงอิสตันบุลทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 36 รายและบาดเจ็บประมาณ 90 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า ผู้ก่อการร้าย 3 คนเปิดฉากยิงผู้คนใกล้ทางเข้าอาคารผู้โดยสารในสนามบิน และระเบิดปลิดชีพตัวเอง หลังจากถูกตำรวจยิงเข้าใส่
นายกรัฐมนตรีบินาลิ ยิลดิริมของตุรกี กล่าวว่า มีสัญญาณก่อนหน้านี้ว่าผู้ก่อการร้ายจากรัฐอิสลามอยู่เบื้องหลังการโจมตีในครั้งนี้
ที่ผ่านมา เหตุระเบิดก่อการร้ายในตุรกีมักจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส หรือไม่ก็กลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนเคอร์ดิช
โดยการโจมตีสะเทือนขวัญในสนามบินเมื่อวันที่ 28 มิ.ย ดูเหมือนจะเป็นการก่อการร้ายร่วมกันของทั้งสองกลุ่ม อ้างอิงจากการรายงานข่าวของนายมาร์ค โลเวน ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวบีบีซี
สื่อในตุรกีรายงานว่า สนามบินอทาร์เตอร์กเป็นเป้าหมายที่มีความเสี่ยงในการโจมตีมานาน จากสภาพเครื่องบินที่ติดบนยางมะตอยในอิสตันบุล
มีเครื่องสแกนเอ็กเรย์ตรงทางเข้าอาคารผู้โดยสาร แต่การตรวจเช็คความปลอดภัยของรถยนต์ในสนามบินยังมีขีดจำกัด
ประธานาธิบดีรีเซป เทยิป เออร์ดอกันของตุรกีกล่าวว่า เหตุร้ายในครั้งนี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการต่อสู้กับกองกำลังหัวรุนแรงพร้อมรบทั่วโลก
เขากล่าวว่า “ เหตุระเบิดในอิสตันบุล ในตุรกี อาจเกิดขึ้นอีกที่สนามบินใด เมืองใดก็ได้ ในโลกใบนี้ ”
สหรัฐอเมริกาประนามการโจมตีครั้งนี้ว่า เป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก และกล่าวว่าสหรัฐฯ พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและแน่วแน่ในการสนับสนุนตุรกีเสมอ
นายแฟรงค์ วอลเทอร์ สไตน์เมียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนีกล่าวว่า“ เราเศร้าเสียใจกับเหยื่อทุกคน เราจะอยู่เคียงข้างตุรกี ”
หลังจากเหตุร้ายผ่านไปหลายชั่วโมง นายกรัฐมนตรียิลดิริมประกาศว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 รายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยบางรายอาการสาหัส และมีชาวต่างชาติเสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย
มีภาพเหตุการณ์แพร่กระจายตามโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว เป็นภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจลั่นกระสุนใส่หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุร้าย ซึ่งคาดเข็มขัดระเบิดสังหารและบาดเจ็บล้มลงกองบนพื้น เที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากสนามบินถูกยกเลิกหลังเหตุก่อการร้าย
สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ สั่งงดเที่ยวบินทั้งหมดระหว่างสหรัฐฯ และตุรกีเพื่อความปลอดภัย
นายชาร์ลส์ มิเชล นายกรัฐมนตรีเบลเยียม ซึ่งเมืองหลวงคือกรุงบรัสเซลส์ที่ถูกโจมตีไปเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ได้ทวีตข้อความจากการประชุมอียูซัมมิทในกรุงบรัสเซลส์ว่า “เราขอแสดงความอาลัยแก่ผู้เสียชีวิตที่สนามบินในกรุงอิสตันบุล เราขอประนามการกระทำที่เหี้ยมโหดเลวร้ายครั้งนี้ ”