โอบามาเลิกแบนค้าอาวุธเวียดนาม
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐอเมริกาประกาศว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกการสั่งห้ามค้าอาวุธให้กับเวียดนาม ซึ่งเคยเป็นศัตรูเก่าของสหรัฐฯ มาก่อนในอดีต
โดยถ้อยแถลงนี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ในระหว่างการเยือนประเทศเวียดนามที่ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์และมีการพูดคุยกับประธานาธิบดีเจิ่น ได กวางของเวียดนาม ประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า การดำเนินการยกเลิกครั้งนี้จะช่วยลดเลือนร่องรอยของสงครามเย็นลงได้
ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีความพยายามที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์กับเหล่าประเทศพันธมิตรในภาคพื้นแปซิฟิก เพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจกับจีน ที่แผ่ขยายอิทธิพลเข้ามาก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม นายโอบามากล่าวว่า การตัดสินใจยกเลิกการคว่ำบาตรการค้าอาวุธให้เวียดนามในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายทางการเมืองของสหรัฐฯ กับจีน
โดยประธานาธิบดีโอบามากล่าวในการเยือนนครฮานอยว่า “เป็นความต้องการของสหรัฐฯ ที่จะทำให้กระบวนการในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเวียดนามที่ยืดเยื้อยาวนานสามารถสำเร็จลุล่วงด้วยดี”
เวียดนามเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่มีความขัดแย้งกับจีนในกรณีพื้นที่พิพาทเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ และสหรัฐฯเองก็ยืนยันถึงสิทธิของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในการล่องเข้าใกล้ทะเลจีนใต้
ในปี 2558 มีความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างเวียดนามกับจีน สาเหตุจากเส้นทางลำเลียงน้ำมันของจีนใกล้หมู่เกาะพาราเซล และมีผลต่อเนื่องทำให้เกิดกระแสต่อต้านจีนอย่างรุนแรงในเวียดนาม
รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า การสั่งห้ามค้าอาวุธให้เวียดนามที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2527 จะถูกยกเลิกถ้าสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเวียดนามได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น
โดยประธานาธิบดีโอบามากล่าวหลังจากพูดคุยกับประธานาธิบดีเจิ่น ได กว่างของเวียดนามว่า “การค้าอาวุธยังคงมีขั้นตอนที่เข้มงวด รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนด้วย แต่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะสร้างความมั่นใจได้ว่า เวียดนามมีอาวุธที่จำเป็นเพียงพอในการป้องกันประเทศ”
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ที่ผ่านมา เวียดนามพึ่งพารัสเซียมาโดยตลอดในเรื่องอาวุธที่ใช้ในกองทัพ เนื่องจากเป็นพันธมิตรในระบอบคอมมิวนิสต์ด้วยกันหลังสงครามเย็น แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนามใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในการสั่งซื้ออาวุธจากจีน ดังนั้น การเดินเกมการเมืองโดยการยกเลิกการคว่ำบาตรในการค้าอาวุธของของสหรัฐฯ น่าจะส่งผลกระทบเชิงบวกในระยะยาวกับสหรัฐฯ มากกว่า
ในการเยือนเวียดนามครั้งนี้ นายโอบามายังจะได้พบกับนักลงทุนและผู้ประกอบการในเวียดนาม เพื่อขจัดอุปสรรคในข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่จะช่วยหนุนเศรษฐกิจของเวียดนามให้พุ่งทะยานติดลมบนในอนาคตอันใกล้
หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนเวียดนาม นายโอบามาจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศจี-7 ที่จัดขึ้นที่เมืองเซนได โดยการเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดการจะเดินทางไปเยือนเมืองฮิโรชิมา ซึ่งเป็นเมืองที่ถูกกองทัพสหรัฐฯ ถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์ในปี 2488 และคร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นไปอย่างน้อย 140,000 ราย.