แผ่นดินไหวถล่มคุมาโมโตะ
เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงกลางดึกในจังหวัดคุมาโมโตะ ทางภาคใต้ของญี่ปุ่น หลังจากแรงสั่นสะเทือนในช่วงกลางวันคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 9 ราย
เมื่อวันที่ 15 เม.ย.เวลา 01.25 น.เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ตามมาตราริกเตอร์ลึกลงไปใต้พื้นดิน 10 กิโลเมตรในเกาะคิวชู และมีผู้เสียชีวิตสะสมล่าสุดถึง 19 รายและมีผู้บาดเจ็บนับร้อยคน มีการสั่งอพยพประชาชนในหลายหมู่บ้าน หลังมีความเกรงกลัวว่าเขื่อนอาจพังทลาย และมีการประกาศเตือนภัยจากสึนามิ แต่คำประกาศเตือนดังกล่าวก็ถูกยกเลิกใน 50 นาทีต่อมา
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่กฎหมายในการก่อสร้างที่เข้มงวด ทำให้อาคารได้รับผลกระทบและความเสียหายค่อนข้างน้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนนับพันต่างอพยพหนีตายลงมาอยู่บนถนนและในสวนสาธารณะ หลายคนห่มผ้าและอยู่ในอาการหวาดกลัวแต่ยังมีจำนวนมากที่ยังติดอยู่ในอาคาร รวมถึงผู้สูงอายุอย่างน้อย 60 คนในบ้านพักคนชราที่พังถล่มลงมาด้วย
สถานีเอ็นเอชเค ซึ่งเป็นสื่อของภาครัฐรายงานว่า มีเขื่อนพังในหมู่บ้านนิชิฮาระ โดยภาพข่าวแสดงให้เห็นถึงชาวญี่ปุ่นนับพันคนที่วิ่งกรูกันมารวมตัวอยู่บนถนนและในสวนสาธารณะ ต่างมีสีหน้าหวาดหวั่นและตื่นตระหนกกันถ้วนทั่ว
โดยทางสถานีได้ออกประกาศเตือนว่า อาจมีคลื่นยักษ์สูงถึง 1 เมตรด้วย องค์การพลังงานนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นยืนยันว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองเซนไดไม่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนี้ ในช่วงแรกแผ่นดินไหวมีขนาด 7.1 ตามมาตราริกเตอร์แต่กลับทวีกำลังความรุนแรงเป็น 7.3 ในเวลาต่อมา
นายเกวิน เฮย์ส์ นักสำรวจทาธรณีวิทยาประจำหน่วยสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกาในโคโลราโด กล่าวกับสื่อว่า แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้ก่อให้เกิดความเสียหายค่อนข้างมากเนื่องจากเกิดเหตุในพื้นที่ตื้นและแนวรอยเลื่อนมีความยาวมาก “พื้นผิวโลกเกิดการขยับลึกลงไปใต้พื้นดินเพียง 4-5 เมตร ดังนั้น จึงเกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง และนี่
คือคำตอบว่าทำไมจึงเกิดผลกระทบค่อนข้างหนักหนาจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้”
สมาคมผู้สื่อข่าวรายงานว่า แขกที่พักในโรงแรมอาร์ค ที่ตั้งอยู่ใกล้กับปราสาทคุมาโมโตะที่ได้รับความเสียหาย ต่างตื่นขึ้นมาด้วยความตระหนกและวิ่งลงมารวมตัวกันที่ล็อบบี้เพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวของญี่ปุ่นรายงานว่าเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 เม.ย.และสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่มีความรุนแรงในระดับเดียวกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ถล่มญี่ปุ่นในปี 2554 ซึ่งก่อให้เกิดสึนามิและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์พังเสียหายยับเยินในเมืองฟูกุชิมะ
มีรายงานผู้เสียชีวิตในเมืองมาชิกิ เนื่องจากมีตึกอพาร์ทเมนท์พังลงมาและบ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บว่ามีมากกว่า 1,000 คนประชาชนประมาณ 40,000 คนต้องอพยพหนีออกจากบ้านของตัวเอง และต้องอาศัยอยู่ข้างนอกตลอดทั้งคืน โดยมีแรงสั่นสะเทือนหลังจากแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อคตามมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 130 ครั้งในบริเวณนั้น