ฝรั่งเศสตายจากโควิด-19 ทะลุหมื่น
ปารีส – ฝรั่งเศสรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาอย่างเป็นทางการมากกว่า 10,000 ราย ทำให้ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ 4 ที่มีผู้เสียชีวิตเกินหมื่นรายตามหลังอิตาลี สเปนและสหรัฐฯ
โดยตัวเลขทางการของฝรั่งเศสยังชี้ว่า จำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สองในวันที่ 7 เม.ย.
เจอโรม ซาโลมง รมว.กระทรวงสาธารณสุขกล่าวในการแถลงข่าวว่า การระบาดยังคงลุกลามขยายตัวในฝรั่งเศส ซึ่งมีการล็อกดาวน์ประเทศเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส
แต่เขาระบุว่า จำนวนผู้ป่วยยืนยันที่มีอาการวิกฤตและต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูมีเพียง 0.8% ในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา นับเป็นการชะลอตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 แล้ว
“ ความต้องการใช้ห้องไอซียูลดระดับความเร่งด่วนลง แต่สมดุลของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นไปในเชิงบวกเพิ่ม ซึ่งหมายความว่าการระบาดยังคงขยายตัว” โซโลมงระบุ
ก่อนหน้าวันที่ 7 เม.ย. อิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดคือ 17,127 ราย รายงานจำนวนผู้ป่วยในห้องไอซียูที่ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แล้ว
ฝรั่งเศสจับตาประเทศเพื่อนบ้านอย่างอิตาลีอย่างใกล้ชิด โดยอิตาลีเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.
นายกรัฐมนตรีเอดูอาร์ด ฟิลิป นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสระบุว่า การยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีไปจนถึงวันที่ 15 เม.ย. จะไม่ “เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน”
ทางการฝรั่งเศสบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เคร่งครัดในกรุงปารีส โดยห้ามกิจกรรมกีฬากลางแจ้งในระหว่างเวลา 10.00 น.- 19.00 น.
โซโลมงระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลฝรั่งเศสหลังจากติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นเป็น 7,091 ราย
แต่หากข้อมูลมีการรวมกับสถานดูแลผู้สูงอายุ จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้งหมดทั่วฝรั่งเศสจะอยู่ที่ 10,328 ราย
ทั้งนี้ ในฝรั่งเศส จำนวนผู้ป่วยยืนยันจากโควิด-19 ทั้งหมดในโรงพยาบาลอยู่ที่ 78,167 ราย ขณะที่มีจำนวนผู้ป่วยยืนยัน หรือมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อในสถานดูแลผู้สูงอายุอยู่ที่ 30,902 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเกินแสนรายแล้ว