จีนเคืองพาสปอร์ตดัดแปลงของไต้หวัน
ข่าวคราวว่าด้วยเรื่องที่รัฐสภาของไต้หวันอนุมัติให้นักเดินทางสามารถติดสติกเกอร์แสดงความเป็นประเทศเอกราช โดยการติดสติกเกอร์ทับคำว่า สาธารณรัฐจีน เป็นสาธารณรัฐไต้หวัน ก่อให้เกิดการถกเถียงที่กำลังปะทุขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่
รัฐสภาไต้หวันได้ลงมติในวันที่ 6 เม.ย. ที่จะยกเลิกการลงโทษผู้ถือหนังสือเดินทางไต้หวันที่ได้ทำการ “เพิ่ม แก้ไข หรือลบ” ข้อมูลจากเอกสารการเดินทางโดยสาเหตุของข้อโต้เถียงนี้ เกิดจากสติกเกอร์ที่นำมาติดแทนข้อความว่า สาธารณรัฐจีน เป็นสาธารณรัฐไต้หวัน ซึ่งเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ ส.ค.ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนเห็นว่าสติกเกอร์ดังกล่าวนี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความต้องการเป็นเอกภาพของชาวไต้หวัน และปฏิเสธไม่ให้ผู้ถือหนังสือเดินทางที่ถูกดัดแปลงหรือแต่งเติมแบบนี้เข้าประเทศจีน
มีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งถูกปฏิเสธไม่ให้เดินทางเข้าประเทศจีน รวมถึงประเทศอื่นบางประเทศ ซึ่งเป็นผลพวงจากสติกเกอร์นี้
หนังสือพิมพ์มาเก๊าเดลี่ไทม์รายงานว่าในเดือนก.พ. ที่ผ่านมา มีชาวไต้หวัน 15 คน ถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในเขตปกครองพิเศษมาเก๊า เนื่องมาจากสติกเกอร์ที่สร้าง “ความขัดแย้งและอ่อนไหวทางการเมือง”
สำนักข่าวอิสระของฮ่องกงรายงานว่า ในเดือนเดียวกันมีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันถูกปฏิเสธไม่ให้เดินทางเข้าฮ่องกง โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า หนังสือเดินทางของนักเดินทางคนดังกล่าวถูกดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน 3 คนยังถูกห้ามไม่ให้เดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์อีกด้วย
ทั้งนี้ หลังจากที่ไต้หวันได้อนุมัติการใช้สติกเกอร์ดังกล่าว หนังสือพิมพ์โกลเบิลไทม์ส์ของรัฐบาลจีนได้เตือนนักท่องเที่ยวก่อนจะถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าประเทศในอนาคต
โดยในบทความกล่าวไว้ว่า “จีนแผ่นดินใหญ่นั้นยังมีอำนาจมากกว่าไต้หวันมาก โดยแผ่นดินใหญ่สามารถจัดการขัดขวางการใช้หนังสือเดินทางที่มีสติกเกอร์ติดอยู่ได้ตามด่านตรวจคนเข้าเมืองในทุกประเทศทั่วโลกอย่างไม่ยากเกินความสามารถ”
สื่อของรัฐบาลจีนได้ทำการประณามกฏหมายของไต้หวันที่ว่าการติดสติกเกอร์ดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นการ “เพิ่ม แก้ไข หรือลบ” ข้อมูลจากเอกสารของทางการ
พีเพิลส์ เดลี่ หนังสือพิมพ์ต่างประเทศของจีนที่เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาล ได้ออกโรงเตือนว่าการอนุมัติให้ใช้สติกเกอร์ครั้งนี้ อาจนำไปสู่เหตุการณ์จลาจลได้
สื่อได้ตั้งคำถามว่า “หากไต้หวันเองอนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลงปกของหนังสือเดินทางดังนี้ ในอนาคตจะมีการอนุญาตให้ประชาชนเปลี่ยนแปลง บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถ ทะเบียนสมรส หรือแม้แต่ประกาศทางกฏหมายหรือไม่?”
“เอกสารทางการจากไต้หวันจะมีความเชื่อถือได้อย่างไร? พวกเราจะยังเชื่อได้หรือไม่หากกฏหมายอนุญาตให้ประชาชนสามารถเปลี่ยน ‘ประเทศ’ ได้? นี่เป็นการท้าทายของ ‘สภานิติบัญญัติ’ หรือเป็น ‘ศูนย์รวมคนบ้า’กันแน่”
ไชน่าเดลี ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของจีนก็ได้รายงานข่าวเตือนถึงผลลัพธ์ของสติกเกอร์นี้ว่าจะทำให้ “เกิดปัญหาและความขัดแย้งต่อเพื่อนร่วมชาติชาวไต้หวันอีกมากมาย” โดยสื่อยังกล่าวต่ออีกว่า“กฏหมายนี้จะเป็นการสร้างรากฐานความเชื่อผิดๆ ให้ชาวไต้หวัน”
นักท่องเน็ตผู้ใช้บริการบล็อกข่าวซินาในเว็บไซต์เว่ยป๋อกำลังเป็นกังวลกับกฏหมายนี้ ในขณะที่ผู้ใช้บล็อกนี้บางคนกล่าวว่าข่าวนี้ “น่าขัน” และผู้ที่ติดสติกเกอร์ดังกล่าวเป็นผู้ที่ “รนหาที่ตาย”
ผู้ใช้คนหนึ่งกล่าวว่า “นี่คือผลงานที่ดีที่สุดของนางสาวไช่อิงเหวิน” โดยบอกว่าสติกเกอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญหาเสียงเพื่อการเลือกตั้งของนางสาวไช่อิงเหวิน เพื่อรวบรวมการสนับสนุนจากชาวไต้หวัน
ผู้ใช้อีกรายออกความเห็นว่า นี่เป็นตัวอย่างของการใช้เล่ห์เหลี่ยมของนางสาวไช่อิงเหวิน เนื่องจากเธอไม่มีท่าทีที่ชัดเจนว่าไต้หวันควรเป็นประเทศที่มีเอกราช และเป็นอิสระจากจีนหรือไม่.