สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน เจ็บทั้งสองฝ่าย
เจนีวา : เมื่อวันที่ 5 พ.ย. สหประชาชาติระบุว่า สงครามการค้าที่ลากยาวระหว่างสหรัฐฯกับจีนกำลังทำร้ายทั้งสองประเทศ โดยตัวเลขเศรษฐกิจลดลงทั้งยอดส่งออกและราคาสินค้าแพงขึ้นสำหรับผู้บริโภค
ในรายงานล่าสุด การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UN Conference on Trade and Development (UNCTAD) ) ที่ตรวจสอบผลสะท้อนของมาตรการภาษีจากทั้งสองประเทศมหาอำนาจ และพบว่ามีผลกระทบที่เลวร้าย
ทางยูเอ็นยังได้ระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้นยังส่งผลกับเศรษฐกิจทั่วโลก “สงครามการค้าที่มีแต่เสีย – เสียทั้งคู่ ไม่เพียงเป็นภัยกับทั้งสองประเทศต้นทาง แต่ยังส่งผลกับเสถียรภาพของเศรษฐกิจทั่วโลกและการเติบโตในอนาคต” Pamela Coke Hamilton ผอ.ฝ่ายการค้าระหว่างประเทศและโภคภัณฑ์ของ UNCTAD ระบุในแถลงการณ์
ในปีที่แล้ว สงครามการค้าสหรัฐฯ – จีนเริ่มต้นขึ้นจากมาตรการภาษีโต้ตอบกันกับสินค้าจำนวนหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นักวิเคราะห์จาก UNCTAD ซึ่งจับตามองผลกระทบของภาษีสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น พบว่าทำให้สหรัฐฯมีการนำเข้าสินค้าจีนที่ถูกคว่ำบาตรลดลงถึง 25% เฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 นี้
โดยรายงานสรุปว่า “ ภาษีของสหรัฐฯที่เก็บกับสินค้าจีนส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ”
Alessandro Nicita นักเศรษฐศาสตร์ UNCTAD กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเจนีวาว่า ในช่วงเวลาของความขัดแย้ง ราคาที่ปรับขึ้นจากภาษีส่วนใหญ่ได้ถูกส่งผ่านไปที่ผู้บริโภคในสหรัฐฯและบริษัท แต่เขาระบุว่า ผู้ส่งออกจีนลดราคาสินค้าที่ถูกเก็บภาษีมากขึ้นเพื่อให้ยังคงครองตลาดสหรัฐฯไว้ได้
ขณะที่รายงานไม่ได้ชี้ถึงผลกระทบของภาษีจีนที่มีกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ย้ำว่าผลลัพธ์เชิงคุณภาพมีแนวโน้มว่าจะคล้ายคลึงกัน คือราคาแพงขึ้นสำหรับผู้บริโภคชาวจีน และผู้ส่งออกสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เสียหาย จากรายงาน ไต้หวันได้ประโยชน์มากที่สุด โดยส่งออกไปสหรัฐฯเพิ่มถึง 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 127,680 ล้านบาท) ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ โดยเฉพาะอุปกรณ์สำนักงาน ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากมาตรการภาษี
เม็กซิโกเองก็ส่งออกไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 106,400 ล้านบาท) โดยเฉพาะอาหารเกษตร อุปกรณ์คมนาคมและเครื่องจักรไฟฟ้า และสหภาพยุโรปเองก็ส่งออกได้มากขึ้นประมาณ 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 82,080 ล้านบาท) ส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักร
ขณะเดียวกัน เวียดนามก็ส่งออกไปสหรัฐฯได้มากขึ้นถึง 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 79,040 ล้านบาท ) โดยได้อานิสงส์จากอุปกรณ์สื่อสารและเฟอร์นิเจอร์
อย่างไรก็ตาม Nicita เตือนว่า ประเทศที่ได้ประโยชน์ในแง่การส่งออกอาจไม่ได้ประโยชน์โดยรวม เพราะ “ เศรษฐกิจทั่วโลกอาจหดตัวกว่านั้นมาก โดยเฉพาะหากสงครามการค้าครั้งนี้ยกระดับขึ้นอีก”
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. รายงานในสื่อวอลสตรีทเจอร์นัลและไฟแนนเชียลไทม์สระบุว่า ทางการสหรัฐฯกำลังพิจารณาลดภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปรับขึ้นกับสินค้าจีน เพื่อให้บรรลุข้อตกลงการค้าในเฟส 1 กับจีน.