นอร์เวย์เป็นประเทศสุขที่สุดในโลก
ประเทศนอร์เวย์เป็นสถานที่ที่มีความสุขที่สุดในโลก อ้างอิงจากรายงานขององค์การสหประชาชาติ โดยสามารถคว้าชัยชนะเหนือประเทศเพื่อนบ้านอย่างเดนมาร์กไปได้
โดยในรายงานความสุขของโลก มาตรวัดจะเจาะจงไปที่ ประชาชนในประเทศมีความสุขอย่างไรและทำไมถึงมีความสุข
ทั้งนี้ เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์และฟินแลนด์ล้วนติดเข้ามาอยู่ใน 5 อันดับแรกของรายงานขณะที่สาธารณรัฐแอฟริกากลางอยู่ในอันดับสุดท้าย
ประเทศในยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือต่างตบเท้าเข้ามาอยู่ในอันดับต้นๆ เป็นส่วนใหญ่ โดยสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 14 และสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 19
นอกจากนี้ ประเทศในพื้นที่ทะเลทรายซาฮาราของทวีปแอฟริกาซึ่งได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง ทำให้คะแนนที่ได้ลดต่ำล โดยซีเรียซึ่งยังอยู่ในภาวะสงครามติดอยู่ในอันดับที่ 152 จากทั้งหมด 155 ประเทศ ขณะที่เยเมนและซูดานใต้ซึ่งกำลังประสบกับการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง อยู่ในอันดับที่ 146 และ 147
โดยมีการเผยแพร่รายงานความสุขโลกในวันที่ 20 มี.ค.เพื่อให้สอดคล้องกับ ‘วันความสุขโลก’ ที่องค์การสหประชาชาติได้ประกาศไว้
การจัดทำรายงานจะมีการถามคำถามง่ายๆ กับกลุ่มคนมากกว่า 1,000 คนในทุกๆ ปี มากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก โดยคำถามมีอยู่ว่า “ ให้จินตนาการเป็นรูปบันได โดยมีขั้นบันไดนับจากล่างสุดคือ 0 และไล่ขึ้นไปถึง 10 สำหรับขั้นบนสุด ”
“ บันไดขั้นบนสุดหมายถึงชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับคุณ และบันไดขั้นล่างสุดหมายถึงชีวิตที่เลวร้ายที่สุดสำหรับคุณ ตอนนี้คุณรู้สึกว่าชีวิตคุณอยู่บนบันไดขั้นไหน? ”
ผลลัพธ์เฉลี่ยคือคะแนนที่ได้ของประเทศ โดยคะแนนสูงสุดคือนอร์เวย์ได้ 7.54 คะแนน และต่ำสุดคือ สาธารณรัฐแอฟริกากลางได้ 2.69 คะแนน แต่รายงานยังคงพยายามที่จะวิเคราะห์สถิติเพื่ออธิบายว่า ทำไมประเทศหนึ่งถึงมีความสุขมากกว่าอีกประเทศหนึ่ง
ดูเหมือนปัจจัยสำคัญที่ส่งผลคือ ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ (วัดได้จากตัวเลข GDP ต่อจำนวนประชากร) การสนับสนุนทางสังคม ความคาดหวังในชีวิต เสรีภาพในการเลือก ความเอื้ออาทร และการทุจริตที่รับรู้ได้
รายงานประจำปีนี้ยังได้บรรจุเนื้อหาบทหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘การเรียกคืนความสุขของชาวอเมริกัน’ ซึ่งทดสอบว่าระดับความสุขในสหรัฐฯ กำลังลดลง ถึงแม้เศรษฐกิจจะดีขึ้นก็ตาม
“ วิกฤตของชาวอเมริกัน คือวิกฤตด้านสังคม ไม่ใช่วิกฤตเศรษฐกิจ ” โดย Jeffrey Sachs ผู้อำนวยการเครือข่ายการแก้ปัญหาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เผยแพร่รายงานนี้กล่าวว่า นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดูเหมือนจะทำให้หลายสิ่งในสหรัฐฯ ยิ่งแย่ลง.