ผู้นำฮ่องกงชี้ศก.ปีนี้ติดลบ
ฮ่องกง (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 29 ต.ค. แคร์รี แลม ผู้นำฮ่องกงระบุว่า เธอคาดการณ์ว่าฮ่องกง ซึ่งเป็นฮับการเงินของเอเชีย จะมีเศรษฐกิจติดลบตลอดทั้งปี 2562 เนื่องจากมีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรงนาน 5 เดือนแล้ว
โดยแลมมีถ้อยแถลงนี้สองวันหลังจากพอล ชาน รมว.คลังฮ่องกงระบุว่า ฮ่องกงตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย และไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการเติบโตขึ้นในปีนี้
โดยการประท้วง ซึ่งเป็นการเรียกร้องประชาธิปไตย ยกระดับขึ้นในเดือนมิ.ย. ฉุดให้ฮ่องกงจมดิ่งลงในวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และถือเป็นการท้าทายความนิยมในตัวของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศจีน
ผู้บริหารแลม ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนระบุว่า รัฐบาลจะประกาศมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในฮ่องกงที่ยังเกิดเหตุไม่สงบอยู่ โดยเธอยังไม่ได้ชี้แจงรายละเอียด
ในสัปดาห์ก่อน รัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนปรนมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง( 7,860 ล้านบาท ) หลังจากในเดือนส.ค.มีการออกมาตรการหนุนเศรษฐกิจมาแล้วจำนวน 19,100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ( 75,063 ล้านบาท )
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวมชุดสีดำและหน้ากากจุดไฟใส่ร้านค้า และขว้างปา ระเบิดเพลิงเข้าใส่ตำรวจ ซึ่งเป็นรูปแบบการประท้วงที่เกิดขึ้นบ่อยในตอนนี้ แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีสัญญาณว่าผู้ชุมนุมจะยุติการประท้วง
โดยแลมระบุว่า รัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่งมีความเชื่อมั่นในการบริหารของรัฐบาลฮ่องกงว่าจะสามารถทำให้ฮ่องกงกลับคืนสู่ภาวะปกติ และสนับสนุนเธอในการคงหลักนิติธรรมไว้
ผู้ประท้วงไม่พอใจในสิ่งที่พวกเขามองว่ารัฐบาลปักกิ่งเริ่มเข้ามาแทรกแซงการบริหารฮ่องกงมากขึ้น หลังจากรับมอบเกาะฮ่องกงคืนจากอังกฤษในปี 2540 ภายใต้หลักการ‘ 1 ประเทศ 2 ระบบ ‘
จีนปฏิเสธว่าไม่ได้แทรกแซงการบริหารฮ่องกง และกล่าวหารัฐบาลต่างชาติ ทั้งสหรัฐฯและอังกฤษว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมและทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายขึ้น
จำนวนนักท่องเที่ยวในฮ่องกงลดลง โดยในเดือนต.ค. นักท่องเที่ยวลดลงเกือบ 50% ยอดค้าปลีกดิ่งเหวลงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่จำนวนคนว่างงานและยื่นขอล้มละลายเพิ่มขึ้น