เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้
ธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ หรือเฟดชี้ว่า อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ถ้าสภาพเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงจากรายงานการประชุม
โดยการประชุมครั้งแรกของเฟด นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ได้มีการพูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในต้นเดือนมี.ค.นี้ ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จะมีการปรับดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของเฟดยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องเวลาของการปรับขึ้นดอกเบี้ยท่ามกลางความผันผวนจากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์
มีความกังวลเกิดขึ้นอย่างมากมายว่า ตัวเลขการว่างงานจะพลาดจากเป้าของเฟดอยู่ที่ 4.8% ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อกดดันและบีบให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นกว่าที่ตลาดการเงินคาดการณ์โดยตัวเลขการว่างงานในเดือนธ.ค.อยู่ที่ 4.7% ถึงแม้ตัวเลขจะกลับขึ้นมาอยู่ที่ 4.8% ในเดือนม.ค.
นายพอล แอชเวิร์ธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำสหรัฐฯ ที่ Capital Economics กล่าวว่า คำว่า ‘เร็วๆนี้’ ในการประชุม คือการเปิดกว้างให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.นี้ ถึงแม้เราจะยังคิดว่าเฟดจะเลื่อนออกไปถึงเดือนมิ.ย.IHS Markit รายงานว่า รายงานการประชุมและความเห็นอื่นๆ ส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. นี้
ถ้าเงินเฟ้อและการจ้างงานในเดือนก.พ. อยู่ในกรอบของแนวโน้มในปัจจุบัน ทางเฟดก็ไม่มีข้ออ้างที่จะเลื่อนเวลาการขึ้นดอกเบี้ยออกไป
ทั้งนี้ รายงานการประชุมยังชี้ว่า ผู้บริหารของเฟด 2-3 คนได้เสนอแนะว่า เฟดอาจจะเปลี่ยนคำแถลงนโยบาย โดยทางธนาคารให้ความมั่นใจว่า แผนการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ค่อยเป็นค่อยไป อาจทำให้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าธนาคารสัญญาว่า จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแค 1 หรือ 2 ครั้งต่อปี
โดยเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมเมื่อวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ. เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ทางเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาอีก 0.25% คือปรับจากเดิม 0.5% มาอยู่ที่ 0.75%
ทั้งนี้ ทางเฟดใช้เวลาหนึ่งปีเต็มในการปรับดอกเบี้ยขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากมีการปรับขึ้นครั้งแรกในเดือนธ.ค.ปี 2558.