บาดหมางญี่ปุ่น/โสมขาวกระทบซัพพลายชิป
ฮ่องกง (ซีเอ็นเอ็น) – เกาหลีใต้เตือนว่ากรณีพิพาททางการค้ากับญี่ปุ่นอาจส่งผลทำลายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก
เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ประธานาธิบดีมุนแจอินระบุว่า การตัดสินใจของญี่ปุ่นที่ห้ามส่งออกวัสดุผลิตเมมโมรีชิปให้เกาหลีใต้จะ “ทำลายเศรษฐกิจ” และเป็นภัยคุกคามทำลายซัพพลายทั่วโลก
ญี่ปุ่นประกาศก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนก.ค.ว่า ทุกบริษัทจะต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลในการส่งออกวัสดุ 3 ชนิดไปเกาหลีใต้ คือ fluorinated polyamides, photoresists และ hydrogen fluoride ที่ใช้ในการผลิตเมมโมรีชิปและสมาร์ทโฟน
การควบคุมการส่งออกสร้างปัญหาให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้อย่างซัมซุง และ SK Hynix ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 63% ของตลาดเมมโมรีชิป จากตัวเลขล่าสุดของสมาคมการค้าระหว่างประเทศเกาหลี
บริษัทเกาหลีใต้นำเข้าวัสดุที่ใช้ในการผลิตทั้งหมด คือ 94% ของ fluorinated polyamides, 92% ของ photoresists และประมาณ 44% ของ hydrogen fluoride จากญี่ปุ่นในไตรมาสแรกของปีนี้ จากข้อมูลของสมาคม
ซัมซุง ผู้ขายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในโลก ระบุในแถลงการณ์ถึง CNN ว่า “ บริษัทได้ประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน และพิจารณามาตรการในการลดผลกระทบกับการผลิตของเรา” แต่ SK Hynix ยังไม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้
ความขัดแย้งทางการค้าครั้งนี้เป็นครั้งล่าสุดของกรณีพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้
ความตึงเครียดยกระดับขึ้นมานานหลายเดือน จากความขัดแย้งที่ย้อนไปในสมัยที่ญี่ปุ่นเข้ามายึดครองคาบสมุทรเกาหลีในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ศาลสูงเกาหลีใต้เพิ่งตัดสินว่าพลเมืองเกาหลีใต้สามารถฟ้องบริษัทญี่ปุ่นที่บังคับใช้แรงงานเกาหลีใต้ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
โยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอ้างถึงคำตัดสินของศาลในการแถลงข่าวหลังจากมีการประกาศคุมเข้มการส่งออก แต่ปฏิเสธว่ามีความเชื่อมโยงกันระหว่างสองประเด็น อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าคำตัดสินของศาลทำลาย “ความสัมพันธ์ของความไว้วางใจ” และกล่าวหาเกาหลีใต้ว่า ปฏิเสธ “ ความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรมายาวนานระหว่างสองประเทศ”
กระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงานของเกาหลีใต้กล่าวหาญี่ปุ่นว่าละเมิดกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก (WTO) และเรียกร้องให้มีการพูดคุยทวิภาคี แต่คาทาโร นากามิ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโต้กลับคำกล่าวหานี้ โดยระบุว่า ไม่มีสัญญาณว่าการควบคุมการส่งออกเป็นการละเมิดกฎของ WTO และระบุว่า “เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมีระบบควบคุมการส่งออกในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อความมั่นคง”
เขากล่าวว่าญี่ปุ่นจะ “มีการประชุมในระดับปฏิบัติการ” กับทางเกาหลีใต้ แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการพิจารณาการถอนมาตรการเหล่านี้
ประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้ ซึ่งได้พบกับตัวแทนผู้บริหารจากบริษัทรายใหญ่ รวมทั้งซัมซุง และ LG เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ระบุว่ารัฐบาลพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้บรรลุจุดประวงค์ให้มีการแก้ไขทางการทูต
“ ผมหวังว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะขานรับ” เขากล่าว “ ผมหวังว่าจะไม่เข้าสู่ทางตันอีกต่อไป”
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดยังคงสูงอยู่ โดยชาวเกาหลีใต้กว่า 36,000 คนได้ลงชื่อในคำร้องให้รัฐบาลมีมาตรการโต้ตอบญี่ปุ่น บนโซเชียลมีเดีย ชาวเกาหลีใต้จำนวนมากเรียกร้องให้บอยคอตสินค้าญี่ปุ่น.