“พาวเวล” เผย เฟดลดดอกเบี้ยได้หากข้อมูลดีขึ้น

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า การคงอัตราดอกเบี้นเอาไว้ที่ระดับ 4.25-4.50%เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและภาคธุรกิจ แต่เขามองว่า เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง พร้อมกับกล่าวว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยยังคงมีเป็นไปได้หากมีข้อมูลเศรษฐกิจสนับสนุน แต่เฟดไม่สามารถตัดสินใจล่วงหน้าเกี่ยวกับนโยบายการเงินได้ จนกว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะมีความชัดเจนมากขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร พาวเวลกล่าวว่า “เรายังไม่เห็นข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง”
“เมื่อเรามองดูสภาพแวดล้อม ก็พบว่ามีความวิตกกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อสูงอาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ดังนั้นประชาชนจึงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในขณะนี้ พวกเขามีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากร แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ผลกระทบนั้นยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง”
นายพาวเวล กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า” นโยบายชุดใหม่ทั้งหมดของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงมีการพัฒนา และผลกระทบต่อเศรษฐกิจยังคงไม่แน่นอนอย่างมาก หากการปรับขึ้นภาษีศุลกากรในอัตราสูงที่ได้ประกาศไว้นั้น ยังคงมีผลบังคับใช้ ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง และทำให้การว่างงานปรับตัวสูงขึ้นด้วย”
“ผลกระทบต่อเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ นั้น เป็นการสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาที่เกิดขึ้นในครั้งเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ว่าผลกระทบต่อเงินเฟ้ออาจจะเกิดขึ้นเป็นเวลาที่ยาวนานขึ้น”
ทั้งนี้ เฟดอยู่ใน “สถานะที่ดี” ที่จะรอดูว่าความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์จะเป็นไปเช่นไร
นอกจากนี้ พาวเวลกล่าวว่าเขาไม่เคยถูกเชิญให้เข้าพบปธน.ทรัมป์ หรือปธน.คนอื่น ๆ ของสหรัฐ และตัวเขาเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะเข้าพบผู้นำประเทศเช่นกัน พร้อมกับกล่าวว่าการที่ปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานหรือแนวทางของคณะกรรมการ เฟดแต่อย่างใด
ส่วนในเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยนั้น พาวเวลปฏิเสธแนวคิดเรื่องการวางแผนไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมาย โดยเขาคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เฟดหั่นจีดีพีปีนี้ 1.7% จากเดิม 2.1%