แมคโดนัลด์ยอดขายหดในรอบ 18 เดือน
ยอดขายของร้านแมคโดนัลด์ลดต่ำลงเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน สะท้อนให้เห็นว่า ความแปลกใหม่ของเมนูอาหารเช้าที่ลูกค้าสามารถสั่งได้ตลอดทั้งวันเริ่มเสื่อมความนิยมลงแล้ว
โดยหุ้นของแมคโดนัลด์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอาหารฟาสท์ฟู้ดที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในโลก ลดลงถึง 2% มาอยู่ที่ 119.84 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงการซื้อขายตอนเช้าของวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา
ยอดขายของร้านแมคโดนัลด์ที่ลดลงในสหรัฐฯ ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากยอดขายลดลง 1.3% ในไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.4% อ้างอิงจากผลวิจัยของบริษัท Consensus Metrix
ทั้งนี้ ยอดขายของร้านแมคโดนัลด์ในต่างประเทศก็ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในสหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น และตลาดสำคัญในละตินอเมริกา
เมนูอาหารเช้าที่สั่งได้ตลอดทั้งวันที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนต.ค.ปี 2558 โดยมีทั้งแมคมัฟฟินแซนด์วิช บิสกิต ฮอตเค้ก ไส้กรอกเบอริโต้ ซึ่งเป็นส่วนที่สตีฟ อีสเตอร์บรูค ซีอีโอของบริษัทคาดหวังว่ายอดขายของร้านจะฟื้นตัวขึ้น
โดยเมนูใหม่ช่วยกระตุ้นยอดขายในไตรมาสเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว แต่กับไตรมาสล่าสุดถือว่าย่ำแย่ลง อ้างอิงจากคำแถลงของแมคโดนัลด์เมื่อวันที่ 23 ม.ค.
“ ตอนนี้แมคโดนัลด์กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่หนักหนาขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลานี้ของปีที่แล้วที่มีเมนูที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่และการเปิดตัวอาหารเข้าตลอดวัน ” นีล ซาวเดอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทค้าปลีก Conlumino กล่าวไว้ในอีเมล
“ คาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงปรับปรุงจะช่วยหนุนให้สถานะทางธุรกิจมั่นคงและยั่งยืนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่มีความชัดเจนมากขึ้นว่า กลยุทธ์นี้ยังไม่ผ่าน ”
อย่างไรก็ตาม แมคโดนัลด์กลับมีผลประกอบการที่ดีขึ้นในต่างประเทศ โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 2.7% เอาชนะตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.6% ของนักวิเคราะห์ไปได้รายได้โดยรวมในไตรมาสล่าสุดของแมคโดนัลด์ลดลงเกือบ 5% มาอยู่ที่ 6,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยรายได้มาจากการขายแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟู
อ้างอิงจากรอยเตอร์ บริษัทมีรายได้ 1.43 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น ยังคงดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้อยู่ที่ 1.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 35.47 บาท / 24 ม.ค. 2560