เน็ตฟลิกซ์กำไรเพิ่ม 56%
หนึ่งปีที่แล้ว เน็ตฟลิกซ์ประกาศชัดเจนว่ามีแผนจะครองตลาดโทรทัศน์สตรีมมิ่งทั่วโลก โดยจะขยายการให้บริการเพิ่มอีก 130 ประเทศ นอกจากนี้ ยังสัญญาว่าจะทำกำไรเพิ่มขึ้นอีกในปี 2560 นี้
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. บริษัทเปิดเผยผลการดำเนินธุรกิจที่ชี้ให้เห็นว่า บริษัทอยู่ในระหว่างทางที่จะเข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้ได้ ถึงแม้จะมีการแข่งขันเพิ่มขึ้นจากบริการของคู่แข่งอย่างอเมซอนและฮูลู
เน็ตฟลิกซ์มีจำนวนสมาชิกสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นถึง 7.05 ล้านคนในไตรมาสสิ้นสุดเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เพิ่มขึ้น 5.59 ล้านคนในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 โดยการเติบโตในตลาดในประเทศและต่างประเทศ สูงกว่าที่คาดการณ์คือ 5.2 ล้านคน ทำให้ปัจจุบัน เน็ตฟลิกซ์มีสมาชิกทั่วโลกถึง 93.8 ล้านคน
ยอดสมัครสมาชิกที่เพิ่มขึ้นทำให้จำนวนสมาชิกของเน็ตฟลิกซ์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทกล่าวว่ากำลังเรียนรู้ในการสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เข้ากับรสนิยมของผู้ชมทั่วโลก ในไตรมาสนี้ สมาชิกจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 5.1 ล้านคน และปัจจุบันมีสมาชิกนอกสหรัฐอเมริกาถึง 44.4 ล้านคนแล้ว ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 47% ของสมาชิกทั้งหมดของบริษัท
ทั้งนี้ ผลกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 56% ไปอยู่ที่ 67 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2558 โดยบริษัทคาดการณ์ว่า กำไรจะสูงถึง165 ล้านดอลลาร์สหรัฐนในไตรมาสปัจจุบัน เพิ่มขึ้นจาก 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสเดียวกันของปี 2559
การแข่งขันในธุรกิจโทรทัศน์สตรีมมิ่งกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นและเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกในตลาด
“ อีกไม่นาน จะกลายเป็นโลกของทีวีอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสสำหรับเน็ตฟลิกซ์ ” อ้างอิงจากจดหมายของเน็ตฟลิกซ์ที่ส่งถึงผู้ถือหุ้น
บริษัททำนายว่า ยอดสมัครสมาชิกจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาสปัจจุบัน ถึงแม้จะชะลอตัวกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยคาดการณ์ว่าจำนวนสมาชิกจะเพิ่มขึ้น 5.2 ล้านคน เป็นสมาชิกในสหรัฐฯ 1.5 ล้านคน และ 3.7 ล้านคนจากต่างประเทศ
ไตรมาสปัจจุบันเป็นการครบรอบ 10 ปีของการให้บริการสตรีมมิ่งของเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่า โทรทัศน์อินเทอร์เน็ตจะเข้ามาแทนที่โทรทัศน์แบบดั้งเดิม แต่ถึงแม้เน็ตฟลิกซ์จะรายงานจำนวน
สมาชิกที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท แต่นายรีด เฮสติงส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยังคงไม่พอใจนัก เมื่อถูกถามถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของเขาที่มีต่อบริษัทในระหว่างการประชุมทางไกล เขากล่าวว่า “ คุณไม่ต้องการบอกถึงวิสัยทัศน์ที่ดีที่สุดหรอก เพราะเมื่อคุณไปถึงจุดนั้น คุณก็จะต้องการทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก”
“ ผมคิดถึงว่า ให้บริษัทอยู่ในวงจรพื้นฐานที่มีคอนเทนท์และผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการผสมผสานกันของบริการที่ดีในราคาที่ดี ผมหวังว่าจะมีคนมาเป็นสมาชิกเน็ตฟลิกซ์เพิ่มขึ้น และช่วยขับเคลื่อนวงจรโดยรวม ขอให้เราแค่ทำซ้ำๆ และดีขึ้นไปเรื่อยๆต่อไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า ” .