เสื้อกั๊กเหลืองประท้วงอีกในฝรั่งเศส
เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ผู้ประท้วงกลุ่ม ‘เสื้อกั๊กเหลือง’ รวมตัวชุมนุมกันในกรุงปารีสและเมืองอื่นในฝรั่งเศสต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ที่ 26 เพื่อประท้วงประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แต่จำนวนผู้ประท้วงลดลงกว่าเดิม
ผู้ประท้วงหลายร้อยคนเริ่มเดินขบวนใกล้กับมหาวิทยาลัย Jussieu กลางกรุงปารีส เนื่องจากบรรดาอาจารย์มีการผละงานประท้วงในสัปดาห์นี้เพื่อประท้วงโครงการปฏิวัติการศึกษา
“ นี่จะเป็นวันของการสนับสนุนผู้ปกครอง ครอบครัว และทุกคนในระบบการศึกษา” ฌอง-คริสตอฟ วาลองติน พนักงานในศาลากลางเมืองที่เข้าร่วมประท้วงกล่าวกับสื่อ AFP
มีผู้ประท้วงประมาณ 2,000 – 3,000 คนในเมืองลียงและนองต์ส สื่อ AFP ประเมิน โดยยืนยันว่าจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมลดลง ตั้งแต่เริ่มการประท้วงครั้งแรกในเดือนพ.ย. ที่มีผู้เข้าร่วมมากถึง 282,000 คนทั่วประเทศฝรั่งเศส
ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยประเมินว่ามีผู้ประท้วงเพียง 2,700 คนทั่วฝรั่งเศสในเวลา 14.00 น.ของวันที่ 11 พ.ค. โดยมีผู้ประท้วงในกรุงปารีส 600 คน เมื่อเทียบกับผู้ชุมนุมประท้วง 3,600 คนในกรุงปารีสในเวลาเดียวกันเมื่อวันที่ 4 พ.ค.
เกิดภาวะตึงเครียดในเมืองนองต์สเมื่อตำรวจเข้าชาร์จกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขว้างปาก้อนหินและสิ่งของอื่นๆเข้าใส่เจ้าหน้าที่ โดยมีอย่างน้อยหนึ่งรายในบรรดาผู้ประท้วงที่ถูกแพทย์สนามเคลื่อนย้ายออกไป
ผู้สื่อข่าวของ CNews ในเมืองนองต์สได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางของตำรวจขณะถ่ายทำการต่อสู้กัน “ ผมไม่เป็นไรเพราะเข็มขัดซัพพอร์ทช่วยลดแรงกระแทก” สเตฟาน เปอร์ริเยร์กล่าวกับสื่อ AFP
ในเมืองนองต์ส และลียง ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากผู้ประท้วงที่สวมหน้ากากพยายามจะสร้างแบร์ริเออร์กีดขวางเส้นทาง
จากการประท้วงเรื่องการขึ้นภาษีน้ำมันในช่วงแรก ในเวลาต่อมา ความเคลื่อนไหวกลับเปลี่ยนไปเป็นการประท้วงประธานาธิบดีมาครงแทน โดยเขาถูกกล่าวหาว่าเพิกเฉยกับการดิ้นรนมีชีวิตในแต่ละวันของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยในเมืองเล็กและชนบทห่างไกลของฝรั่งเศส
“ ผมขอเรียกร้องให้ชาวยุโรปต่อต้านการโหวตให้มาครง แม้ว่าคะแนนจะอยู่เป็นที่ 2 เราต้องทำให้เขาตกต่ำลงมาอยู่บนดิน เขาจึงจะทำหน้าที่เพื่อเรา แทนที่จะทำเพื่อคนรวยเท่านั้น” เจอโรม รอดรีกส กล่าวให้สัมภาษณ์ในเมืองลียง
รอดรีกสเป็นหนึ่งในนักวิจารณ์รัฐบาลฝีปากกล้า และเป็นผู้มีชื่อเสียงในการประท้วงกลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง เมื่อเขาถูกกระสุนยางของตำรวจยิงเข้าใส่ในระหว่างการประท้วงครั้งหนึ่งในเดือนม.ค.และต้องสูญเสียดวงตาหนึ่งข้าง
“ หากท่านไม่อยากฟังเสียงเรา เราจะเก็บเงียบจนกระทั่งท่านฟังเสียงเรา ถ้าไม่เช่นนั้นจะเป็นการบ่อนทำลายการดำรงตำแหน่งในฐานะประธานาธิบดีของท่าน”
ในเดือนเม.ย. ประธานาธิบดีมาครงเผยการปรับขึ้นค่าแรงและการลดภาษีให้กับผู้มีรายได้น้อยเพื่อเอาใจผู้ประท้วง และสัญญาจะช่วยแก้ความคับข้องใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลังจากมีการดีเบตในศาลากลางเมืองนานหลายเดือน