อียูตกลงเลื่อนเบร็กซิทถึงสิ้นเดือนต.ค.
ผู้นำประเทศในสหภาพยุโรปและรัฐบาลสหราชอาณาจักรตกลงที่จะมีการ “ขยายเวลาที่ยืดหยุ่น” ของกำหนดการเบร็กซิทออกไปเป็นวันที่ 31 ต.ค.
โดยโดนัลด์ ทัสก์ ประธานสภายุโรประบุว่า พัฒนาการของเรื่องนี้ทำให้ “มีเวลาเพิ่มอีก 6 เดือนสำหรับสหราชอาณาจักรที่จะหาทางแก้ไขในสิ่งที่เป็นไปได้อย่างดีที่สุด”
มีการประชุมซัมมิตฉุกเฉินเกิดขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ร้องขอให้มีการเลื่อนกำหนดการออกจากอียูของสหราชอาณาจักรออกไป โดยส.ส.ของสหราชอาณาจักรปฏิเสธข้อตกลงที่นายกฯเมย์เจรจากับอียูถึง 3 ครั้ง แต่ส.ส.เองก็ไม่สามารถได้เสียงข้างมากเพียงพอที่จะสนับสนุนทางเลือกอื่น
นายกฯเมย์ยังได้มีการพูดคุยกับเจเรมี คอร์บิน ผู้นำฝ่ายค้านจากพรรคแรงงานด้วยความหวังว่าจะมีการประนีประนอม หรืออาจมีแผนทางเลือกอื่น แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะผ่าทางตันของเบร็กซิท
หลังจากมีการเจรจาเรื่องเบร็กซิทมานานถึง 2 ปี สหราชอาณาจักรมีกำหนดการเดิมที่จะต้องถอนตัวออกจากอียูในวันที่ 29 มี.ค. แต่เนื่องจากสภาไม่สนับสนุนข้อตกลงที่เสนอ รัฐบาลจึงขอเลื่อนกำหนดออกไปเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ คือในวันที่ 12 เม.ย. เพื่อต้องการเร่งให้มีการสนับสนุนแผนทางเลือกอื่นๆ ของเบร็กซิท
และเนื่องจากไม่สามารถหาทางออกที่เป็นรูปธรรมได้ ในสัปดาห์ที่แล้ว นายกฯเมย์จึงร้องขอให้มีการเลื่อนกำหนดเวลาออกไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อป้องกันไม่ให้สหราชอาณาจักรต้องออกจากอียูแบบไร้ข้อตกลงใดๆ
โดยทางอียูได้ออกโรงเตือนก่อนหน้านี้ว่า การเลื่อนกำหนดออกไปอาจทำให้สหราชอาณาจักรมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งสภายุโรปในช่วงปลายเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้สหราชอาณาจักรมีส่วนในการเลือกตั้งและโหวตเลือกตัวแทนในสภายุโรป และสมาชิกสภาที่ได้รับเลือกเหล่านั้นจะต้องหยุดปฏิบัติงานให้อียูในวันที่สหราชอาณาจักรออกจากอียู
แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในการเจรจากล่าวกับสื่อ CNBC ว่า ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่โน้มน้าวให้ตกลงได้ยากที่สุด แหล่งข่าวทางการทูตกล่าวกับสื่อรอยเตอร์ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงให้ความเห็นว่า ความล่าช้าที่เกินจากวันที่ 30 มิ.ย.จะเป็นการบ่อนทำลายอียู นักการทูตบางคนแสดงท่าทีหงุดหงิดกับจุดยืนของเขา โดยชี้ว่าฝรั่งเศสกำลังเพิ่มความผันผวนให้กับการประชุม.