ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยชี้สหรัฐฯบี้เราไม่ได้
เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยีระบุว่า “ ไม่มีทางที่สหรัฐฯจะบดขยี้เราได้ ” อ้างอิงจากคำสัมภาษณ์ของเขาที่ให้กับสื่อ
“ โลกไม่อาจทอดทิ้งเรา เพราะว่าเราล้ำหน้ากว่า ถึงแม้พวกเขาจะชี้นำให้หลายประเทศหยุดการใช้งานเราชั่วคราว เราสามารถลดขนาดการทำงานของเราลงได้” เขากล่าว
โดยเหรินยังระบุว่า การจับกุมตัวเมิ่งว่านโจว ลูกสาวของเขา ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานบริหารฝ่ายการเงินของหัวเว่ยมีแรงจูงใจทางการเมือง “ เริ่มแรกเลย ผมคัดค้านสิ่งที่สหรัฐฯทำ การกระทำที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองแบบนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ” เขากล่าวกับสื่อ
โดยแคนาดาจับกุมตัวเมิ่งในวันที่ 1 ธ.ค.จากการร้องขอของสหรัฐฯ เมิ่งถูกตั้งข้อหาว่าเกี่ยวข้องกับธุรกรรมของธนาคารที่ละเมิดการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯปฏิเสธว่าไม่ได้มีการตั้งข้อหาเมิ่งจากแรงจูงใจทางการเมือง “ คดีอาชญากรรมของกระทรวงสหรัฐฯที่มีต่อซีเอฟโอ เมิ่งว่านโจวของหัวเว่ยอยู่บนพื้นฐานของหลักฐานและกฎหมาย โดยทางกระทรวงทำคดีนี้โดยปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง และดำเนินการตามหลักฐานและความเที่ยงธรรม” Nicole Navas โฆษกหญิงของกระทรวงระบุในอีเมลถึงสำนักข่าวรอยเตอร์
หัวเว่ย และ ZTE ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากจีน ถูกสหรัฐฯกล่าวหาว่า ทำงานให้กับรัฐบาลจีน โดยสหรัฐฯระบุว่า อุปกรณ์ของทั้งสองบริษัทสามารถใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้งานชาวอเมริกัน และหัวเว่ยปฏิเสธคำกล่าวหานี้หลายต่อหลายครั้ง
เมื่อถูกถามเรื่องความกังวลด้านการจารกรรมข้อมูล ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยย้ำว่าบริษัทไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการสอดแนมข้อมูล
ทั้งนี้ ผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในโลกเผชิญกับปัญหาการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในประเทศตะวันตกเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีนและอุปกรณ์ที่อาจใช้เพื่อการจารกรรมข้อมูล โดยสหรัฐฯเรียกร้องให้ประเทศพันธมิตรไม่ใช้เทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย
“ ในตะวันตกเราอาจอับแสง แต่ในตะวันออกเรายังคงเปล่งประกาย และหากทางเหนือมืดมน ก็ยังมีทางใต้ อเมริกาไม่ได้เป็นตัวแทนทั้งโลก อเมริกาแค่เป็นตัวแทนบางส่วนของโลก” เหรินกล่าว “โลกไม่อาจทอดทิ้งเราเพราะเราล้ำหน้ากว่า แม้พวกเขา(สหรัฐฯ) จะโน้มน้าวให้อีกหลายประเทศไม่ใช้อุปกรณ์ของเราได้ชั่วคราว เราสามารถลดขนาดธุรกิจลงได้”
เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ของการถูกแบนในสหราชอาณาจักร เหรินกล่าวว่า จะไม่ทำให้บริษัทถอนการลงทุนในสหราชอาณาจักร โดยเสริมว่าจะย้ายการลงทุนในสหรัฐฯไปที่สหราชอาณาจักร หากสหรัฐฯยังมีท่าทีต่อต้านหัวเว่ยต่อไป
“ เราจะลงทุนมากขึ้นในสหราชอาณาจักร เพราะถ้าสหรัฐฯไม่เชื่อเรา เราจะย้ายการลงทุนจากสหรัฐฯไปสหราชอาณาจักร หรืออาจขยายขนาดธุรกิจด้วย” เหรินกล่าวกับสำนักข่าว BBC
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ว่า ฝ่ายความมั่นคงของสหราชอาณาจักรไม่ได้สนับสนุนการแบนหัวเว่ยอย่างเต็มที่จากโครงข่ายโทรคมนาคมแห่งชาติ.