#MeToo ส่งผลอัยการเกาหลีใต้ถูกจำคุก
อดีตหัวหน้าอัยการ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ หลังความเคลื่อนไหว #MeToo กลายเป็นกระแสร้อนแรงในเกาหลีใต้ถูกศาลตัดสินจำคุก
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ศาลตัดสินให้อัยการอันแทกึน ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี นับเป็นคดีสำคัญคดีแรกหลังมีความเคลื่อนไหว #MeToo ในปีที่แล้วที่ทำให้เหยื่อหลายคนลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม โดยโจทก์ในคดีนี้คือโซจีฮยอน อัยการรุ่นน้องที่กล้าเปิดเผยเรื่องราวและกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ล่วงละเมิดเธอในปี 2553
เขาไม่ได้ถูกตัดสินในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ เนื่องจากคดีหมดอายุความไปแล้ว แต่การเปิดเผยของโซ สร้างแรงกระเพื่อมเป็นวงกว้างในสื่อของเกาหลีใต้ และทำให้มีผู้หญิงคนอื่นออกมาเปิดเผยประสบการณ์อันเลวร้ายที่ถูกล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศมากขึ้น
ก่อนจะเปิดเผยเรื่องราวต่อสื่อ โซเคยเผชิญหน้ากับผู้ต้องหา หลังเขากลั่นแกล้งเธอด้วยการสั่งย้ายให้เธอไปทำงานในตำแหน่งใหม่ที่ทงยอง ซึ่งอยู่ห่างไกลจากกรุงโซลมาก
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ศาลมีคำตัดสินว่า การที่อัยการอันทำเช่นนั้นเป็นการประพฤติมิชอบและให้เขารับโทษจำคุก นับเป็นความเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างยิ่งต่ออดีตหัวหน้าอัยการผู้นี้ ก่อนหน้านี้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งในกระทรวงยุติธรรมเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าพยายามจ่ายเงินเพื่อติดสินบนเจ้าหน้าที่คนอื่นในสำนักอัยการ
โดยศาลระบุว่า “ เพื่อปกปิดความประพฤติผิดของตัวเอง ผู้ต้องหาได้ทำร้ายจิตใจโจทก์จนยากจะเยียวยา ” อย่างไรก็ตาม อดีตอัยการผู้ต้องหามีแผนจะขอยื่นอุทธรณ์ต่อไป
“ สังคมมักใส่ร้ายและตั้งคำถามกับเหยื่อ และสนับสนุนคนทำผิด ฉันคิดว่าสภาพที่ทารุณโหดร้ายนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ” โซกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ในเกาหลีใต้เมื่อคืนวันที่ 23 ม.ค.
“ สำนักอัยการมีคดีเช่นนี้มานานแล้ว และพวกเขามักปกปิดคดีอาชญากรรมทางเพศ ซึ่งทำให้ #MeToo ไม่อาจประสบความสำเร็จได้ ”
กระแสความเคลื่อนไหว #MeToo ที่ร้อนแรงในปีที่แล้ว ทำให้นักการเมืองคนหนึ่งในเกาหลีใต้ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนเลขานุการของตัวเอง แต่เนื่องจากขาดหลักฐาน ทำให้ศาลตัดสินว่าเขาไม่มีความผิด แต่เขาก็ขอยุติบทบาททางการเมืองเนื่องจากเสื่อมเสียชื่อเสียง
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของเกาหลีใต้ระบุว่า จะเริ่มดำเนินการสอบสวนกรณีการทำร้ายร่างกายและการล่วงละเมิดทางเพศในวงการกีฬาเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ที่ครอบคลุมกีฬาถึง 50 ชนิด โดยมีแผนจะสอบสวนและสัมภาษณ์นักกีฬาปัจจุบันและอดีตของเกาหลีใต้นับพันคน
โดยประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่หลังนักกีฬาสเก็ตหญิงออกมาเปิดเผยประสบการณ์การถูกทำร้ายของพวกเธอ รวมทั้งชิมซุกฮี นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก ซึ่งกล่าวหาอดีตโค้ชว่าข่มขืนเธอ
เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศสูง ผู้หญิงมักจะได้รับค่าจ้างน้อยกว่าผู้ชาย ขณะที่ในสภามี
ส.ส.หญิงเพียง 17%
ในปีที่แล้ว มีการประท้วงครั้งใหญ่ในประเด็นการติดกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำและแอบถ่ายใต้กระโปรงผู้หญิง สตรีชาวเกาหลีใต้นับหมื่นรวมตัวกันประท้วงกลางกรุงโซล พร้อมชูป้ายว่า “ ชีวิตฉันไม่ใช่หนังโป๊ของพวกคุณ”
การประท้วงส่งผลให้รัฐบาลมีการปราบปรามการติดกล้องแอบถ่ายอย่างจริงจัง ในเดือนนี้ เจ้าของเว็บไซต์ลามกที่ช่วยแชร์ภาพแอบถ่ายเหล่านั้นถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี