รัฐบาลสหรัฐฯ ชัทดาวน์ยังไร้ทางออก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ และพรรคเดโมแครตยังคงตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากส.ส.เดโมแครตยืนยันไม่ให้งบประมาณสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกตามที่ผู้นำสหรัฐฯ ร้องขอ
หมายความว่าลูกจ้างรัฐบาลกลางหลายแสนคน (ที่ได้รับผลกระทบจากการชัทดาวน์บางส่วนของรัฐบาลและอาจกลายเป็นการชัทดาวน์ที่ยาวนานที่สุดในสหรัฐฯ ) อาจต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อเช็คเงินค่าจ้างของพวกเขาไม่ได้มาตามปกติในวันที่ 11 ม.ค.
โดยเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ประธานาธิบดีทรัมป์มีการประชุมกับผู้นำในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เขาทวีตเหมือนกับเมื่อช่วงเกือบ 8 ปีก่อนที่ว่า “ รู้ว่าเมื่อไรที่ควรเดินออกจากโต๊ะเจรจา มันคือ ‘ศิลปะของการดีล’ ”
เขาระเบิดอารมณ์ในห้องประชุมในทำเนียบขาว หลังแนนซี เปโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตปฏิเสธที่จะอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก ซึ่งผู้นำสหรัฐฯไม่สามารถจัดการหางบมาสร้างได้
“ เพิ่งออกจากการประชุมกับชัคและแนนซีมา เสียเวลาจริงๆ” ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตสั้นๆหลังทำการประชุมล่ม
แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการประชุมเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ให้ข้อมูลกับทางสื่อ CNN ว่า ประธานวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตถามทรัมป์ว่า “ ทำไมคุณถึงไม่เปิดทำการรัฐบาล และหยุดทำร้ายคนอื่น ?”
ประธานาธิบดีตอบว่า “ เพราะคุณไม่ให้สิ่งที่ผมต้องการ” ก่อนจะจบการประชุมด้วยการกล่าว่า “ ลาก่อน ” และเดินออกจากประตูไป
นี่เป็นสถานการณ์คลาสสิกสำหรับทรัมป์ที่รู้สึกพอใจกับช่วงเวลาเหล่านั้น และผู้สนับสนุนก็ล้วนแต่ชื่นชมอาการโผงผางขวานผ่าซากและเจตนาที่จะทำลายข้อตกลงหรือระเบียบใดๆของเขา
ส.ส.ในสภาจากพรรคเดโมแครตกำลังเริ่มที่จะดำเนินการโหวตเพื่อเปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลด้วยกลยุทธ์ที่จะบีบวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน และทำให้ทรัมป์ดูเป็นคนที่ไม่ตั้งใจที่จะช่วยเหลือในเรื่องรัฐบาล
มีความเป็นไปได้ว่าลูกจ้างรัฐบาลส่วนกลางหลายแสนคนจะไม่ได้รับเช็คค่าจ้าง และตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากที่ไม่มีเงินจ่ายค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ทำเนียบขาวต้องการให้บางอย่างเกิดขึ้นเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ที่เป็นเหมือนการเล่นเกมการเมืองกันอยู่ และผลักความรับผิดชอบไปให้พรรคเดโมแครต ซึ่งคิดว่าพวกเขาถือไพ่เหนือกว่า ให้เป็นผู้แก้ไขเรื่องนี้
เปโลซี พูดจิกกัดทรัมป์เป็นการส่วนตัวถึงฐานะที่ร่ำรวยของทรัมป์ จึงไม่เห็นถึงความยากลำบากของลูกจ้างรัฐบาลที่ไม่ได้รับค่าจ้าง โดยเธอกล่าวว่า “ ทรัมป์คิดว่า พวกเขาอาจขอเงินพ่อของพวกเขาได้ (เหมือนตัวเอง) แต่พวกเขาทำไม่ได้ไง”.