ราคาน้ำมันพุ่งหลังโอเปกคุมเข้ม
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี คือสูงกว่า 81 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล หลังจากซาอุดิอาระเบียและรัสเซียปฏิเสธคำขอของผู้นำสหรัฐฯ ที่ให้เพิ่มเพดานการผลิตน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2557 เป็นต้นมา อยู่ที่ 81.16 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น 3%
ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียเป็นผู้นำกลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมันโอเปก ขณะที่รัสเซียเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดนอกกลุ่มโอเปก
พวกเขาพบกันในแอลเจียร์ส เมืองหลวงของประเทศแอลจีเรียเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องซัพพลายน้ำมันที่ผลิตได้ทั่วโลกและผลกระทบจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่มีกับอิหร่าน
คาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.กระทรวงพลังงานของซาอุฯ กล่าวในการแถลงข่าวในเมืองแอลเจียร์สว่า เขาไม่ได้มีอิทธิพลในการควบคุมราคาน้ำมัน
โดยโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเคยมีการพูดคุยเพื่อเพิ่มเพดานการผลิตอีก 500,000 บาร์เรลต่อวัน อ้างอิงจากการรายงานของรอยเตอร์
ยอดขายน้ำมันดิบของอิหร่านลดลงเนื่องจากผู้ซื้อยังคงกังวลเรื่องผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรที่มีผลตั้งแต่เดือนพ.ย. ความกังวลเหล่านั้นส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น โดยผู้ขายอย่าง Trafigura และ Mercuria ทำนายว่า ราคาน้ำมันอาจดีดตัวพุ่งขึ้นไปสูงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในต้นปีหน้าก็เป็นได้
แต่ Anne-Louise Hittle รองประธานบริษัทที่ปรึกษาพลังงาน Wood Mackenzie ระบุว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นปฏิกริยาที่รุนแรงเกินไปของตลาด
เมื่อสัปดาห์ก่อน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า โอเปกต้องลดราคาน้ำมันลงตอนนี้ ด้วยการเพิ่มเพดานการผลิต “ เราปกป้องประเทศตะวันออกกลาง พวกเขาจะปลอดภัยได้ไม่นานถ้าไม่มีเรา และพวกเขายังจะดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นและสูงขึ้นอีก เราจะจำไว้ ” ทรัมป์เสริม
Bijan Zanganeh รมว.น้ำมันของอิหร่านระบุเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ว่า ทวีตของทรัมป์เป็นการสบประมาทครั้งใหญ่ที่สุดกับประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯในตะวันออกกลาง
ในปี 2560 กลุ่มประเทศโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันอื่นๆ รวมทั้งรัสเซียประกาศว่า จะขยายข้อตกลงซึ่งทำไว้ครั้งแรกในปี 2559 ที่จะลดเพดานการผลิตน้ำมันเพื่อช่วยดันให้ราคาน้ำมันทั่วโลกสูงขึ้น หลังจากเคยดิ่งร่วงลงไปต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยข้อตกลงนี้ได้ผ่านการเห็นชอบในการประชุมเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา
“ เราคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศโอเปกที่นำโดยซาอุฯ ซึ่งมีกำลังการผลิตสำรองอีก จะเพิ่มเพดานการผลิต แต่จะไม่เกินกว่าปริมาณน้ำมันที่ลดลงของอิหร่าน ” Edward Bell นักวิเคราะห์โภคภัณฑ์ที่ธนาคาร Emirates NDB ระบุ
“ พวกเขาจะทำกับตลาดน้ำมันเพื่อให้เกิดภาวะตึงตัวยิ่งขึ้นกว่าที่เราคาดการณ์ไว้สำหรับปี 2562 เนื่องจากเพดานการผลิตสำรองถูกสั่นคลอน ” เขาเสริม