ทรัมป์เรียกร้องให้สอบสวนสื่อนิวยอร์กไทม์
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯดำเนินการสอบสวนสื่อนิวยอร์กไทม์ หลังจากตีพิมพ์คอลัมน์ที่เป็นความเห็นของเจ้าหน้าที่นิรนามในคณะรัฐบาล
โดยทรัมป์ยังระบุว่า เขากำลังพิจารณาจะดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายกับทางนิวยอร์กไทม์อีกด้วย โดยหุ้นของสื่อนิวยอร์กไทม์ปรับร่วงลงทันทีหลังทรัมป์แสดงความเห็นในเรื่องนี้ต่อสาธารณะ
“ เราจะได้เห็นกัน ผมจะจับตาดูตั้งแต่ตอนนี้” ผู้นำสหรัฐฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซวัน
“ อัยการสูงสุดเจฟฟ๋ เซสชันส์ควรทำการสอบสวนว่าใครเป็นผู้เขียนคอลัมน์นี้ เพราะผมเชื่อว่านี่เป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ”
สื่อนิวยอร์กไทม์ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่ามีความเชื่อมั่นว่ากระทรวงยุติธรรม “ จะไม่มีส่วนในการถูกละเมิดอย่างโจ่งแจ้งโดยอำนาจของรัฐบาล”
“ คำขู่ของท่านประธานาธิบดีย้ำชัดกับเราว่า ทำไมเราจึงต้องปกป้องตัวตนของผู้เขียน และทำหน้าที่เป็นผู้เตือนให้เห็นถึงความสำคัญของเสรีภาพและอิสรภาพของสื่อที่มีต่อประชาธิปไตยอเมริกัน”
โดยทรัมป์ไม่ได้ชี้แจงว่า จะดำเนินการพิจารณาเรื่องนี้กับทางนิวยอร์กไทม์อย่างไร และยังไม่มีความชัดเจนว่าเขาจะใช้หลักฐานทางกฎหมายใดเพื่อนำมาประกอบในการดำเนินการ
ทั้งนี้ โฆษกหญิงของกระทรวงยุติธรรมระบุว่า กระทรวงยังไม่ยืนยันหรือปฏิเสธการสอบสวน และทางสื่อนิวยอร์กไทม์เองยังไม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้
ที่ปรึกษาของทรัมป์จำนวนหนึ่งปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้เขียนคอลัมน์นี้ ซึ่งตีพิมพ์ในนิวยอร์กไทม์เมื่อวันที่ 5 ก.ย.โดยไม่ได้ระบุชื่อ ซึ่งทางสื่อนิวยอร์กไทม์ระบุว่าเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยแต่เป็นเรื่องจำเป็นเพื่อปกป้องผู้เขียน
ในคอลัมน์นั้น ผู้เขียนตำหนิความเป็นคนไร้ศีลธรรมและสไตล์การเป็นผู้นำของทรัมป์ โดยแหล่งข่าวผู้นั้นระบุว่า มีหลายคนที่มีความรู้สึกร่วมในการต่อต้านทรัมป์อย่างเงียบๆ ภายในคณะรัฐบาลซึ่งทำงานกันอย่างขยันขันแข็งจากภายในแต่กลับต้องรู้สึกท้อแท้ผิดหวังกับแนวคิดของเขาและความโน้มเอียงที่จะเป็นไปในแง่ร้ายของเขา
ทรัมป์มักโจมตีสื่ออยู่บ่อยครั้งว่ามุ่งเน้นที่จะทำแต่ข่าวด้านลบเกี่ยวกับคณะทำงานของเขา และประณามสิ่งที่เขารับรู้ว่าเป็น ‘ข่าวลวง’ เขาพูดซ้ำบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่า เขาเชื่อว่ากฎหมายเกี่ยวกับการใส่ร้ายป้ายสีหรือหมิ่นประมาทควรมีความเข้มงวดมากกว่านี้
ทั้งนี้ ทรัมป์เคยขู่จะฟ้องสื่อไทม์ตั้งแต่ช่วงที่เขาหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนต.ค.ปี 2559 จากเรื่องที่ตีพิมพ์เกี่ยวกับพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศที่ผ่านมาของเขา แต่ทางไทม์ยืนยันในเรื่องที่ตีพิมพ์และเพิกเฉยกับความต้องการของทนายส่วนตัวของทรัมป์ที่ให้ขอโทษและถอนบทความออก แต่ก็ไม่มีการฟ้องร้องใดๆเกิดขึ้น
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ กระทรวงยุติธรรมระบุว่า ได้มีการประชุมกับอัยการสูงสุดของรัฐเพื่อปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับความกังวลที่ว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกำลังกำจัดความเห็นแนวอนุรักษ์นิยม.