ฮอกไกโดแผ่นดินไหวเสียชีวิตแล้ว 9 สูญหายอีก 33
ในวันที่ 6 ก.ย. เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.6 แมกนิจูด ส่งผลให้เกิดดินถล่มที่สร้างความเสียหายรุนแรงทางตอนเหนือของญี่ปุ่น มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย พร้อมด้วยประชาชนอีกจำนวนหนึ่งที่สูญหายไป เนื่องจากบ้านถูกดินถล่มล้อมรอบ
เหตุดินถล่มที่ส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง และเกิดขึ้นหลายครั้งติดต่อกัน ถล่มลงมาในบริเวณเขตชนบทที่มีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง ซึ่งเพิ่งถูกไต้ฝุ่นกำลังรุนแรงเข้าโจมตีเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นสภาพบ้านหลายหลังที่บริเวณด้านล่างของเนินเขาเสียหายอย่างหนัก พร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยเพื่อพาประชาชนออกจากที่อยู่อาศัยไปยังบริเวณที่ปลอดภัย
บ้านเรือนกว่า 3 ล้านหลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหลักที่จ่ายพลังงานให้กับทั้งภูมิภาคได้รับความเสียหายหนัก
สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์โทมาริ ในฮอกไกโด ซึ่งไม่ได้เปิดทำงานในช่วงก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหว จำเป็นต้องนำพลังงานสำรองฉุกเฉินมาใช้แทน เพื่อให้ระบบทำความเย็นทำงานต่อไปได้
คาซึโอะ คิบายาชิ เจ้าหน้าที่ของเมืองอาบิระที่ถูกโจมตีหนัก ให้สัมภาษณ์กับสื่อ AFP ว่า “ จู่ ๆ ก็เกิดแรงสั่นไหวรุนแรงขึ้น ผมรู้สึกได้ว่ามันเคลื่อนไปทางด้านข้าง ไม่ใช่ขึ้นลง ซึ่งเกิดขึ้นอยู่ราว 2-3 นาที”
เขาเสริมอีกว่า “ มันหยุดชั่วครู่ก่อนจะเริ่มอีกครั้ง ผมรู้สึกได้ว่ามันมาเป็นคลื่น 2 ระลอก ผมอายุ 51 แล้ว และผมไม่เคยเจอแผ่นดินไหวแบบนี้มาก่อน ผมคิดว่าบ้านของผมกำลังจะถล่ม ทุกอย่างในบ้านระเนระนาด ผมยังไม่มีแม้แต่เวลาจะเริ่มเก็บกวาดเลย ”
หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวในครั้งแรก ก็เกิดอาฟเตอร์ช็อคที่จับขนาดได้ 5.3 แมกนิจูด และยังมีอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกจำนวนหนึ่งตลอดคืนจนกระทั่งในตอนเช้า
ไม่มีรายงานเตือนการเกิดสึนามิหลังเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตื้นแต่อย่างใด ซึ่งแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นห่างจากใจกลางเมืองซัปโปโร ออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 62 กม.
NHK รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ส่วนใหญ่แล้วอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอัตสึมะที่ถูกดินถล่นทับ และอีก 33 รายยังคงหายสาบสูญ
โยชิฮิเดะ ซูงะ โฆษกของรัฐบาลระบุว่า มีพนักงานกู้ภัยราว 20,000 นาย โดยรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกองกำลังป้องกันตนเอง ที่เข้าบรรเทาภัยพิบัติในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่จากกองกำลังป้องกันตนเองเข้าร่วมด้วยอีก 20,000 นาย.