ทรัมป์แนะเลิกรายงานต่อไตรมาส
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ร้องขอให้บริษัทในสหรัฐฯรายงานผลประกอบการทางการเงินแค่ 2 ครั้งต่อปี แทนที่จะเป็น 4 ครั้งต่อปีเหมือนที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีสหรัฐฯระบุว่า ได้ขอให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) พิจารณาการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเดิมที่กำหนดให้บริษัทต้องรายงานการเงินทุกไตรมาส
โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยปรับปรุงให้เกิดความยืดหยุ่นและช่วยประหยัดเงินได้ ผู้นำสหรัฐฯกล่าว
นักวิเคราะห์หลายคนวิจารณ์ความคิดของทรัมป์ โดยพวกเขาระบุว่า จะทำให้นักลงทุนทราบข้อมูลน้อยเกินไป
ทรัมป์ทวีตว่า “จากการพูดคุยกับนักธุรกิจชั้นนำระดับโลก ผมได้ถามว่า นี่จะทำให้ธุรกิจในสหรัฐฯดีขึ้นไหม หากเราหยุดรายงานประจำไตรมาส และเปลี่ยนมาใช้ระบบทุก 6 เดือนแทน มีแต่คนสนับสนุนผม”
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า เขาได้ขอให้ทาง SEC ทำการศึกษาในเรื่องนี้
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความคิดที่จะให้บริษัทรายงานผลประกอบการน้อยครั้งลงไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยบางคนระบุว่า จะทำให้ตลาดมีความโปร่งใสน้อยลงและมีความผันผวนเมื่อมีการรายงานข้อมูลทางการเงินหลังช่วงเวลาที่นานขึ้น
“ถ้าคุณลดความโปร่งใส รวมทั้งความถี่ของการรายงาน มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มความผันผวน ซึ่งเป็นศัตรูของนักลงทุน” Robert Phipps ผอ.ที่ Per Sterling Capital Management
Stan Shipley ที่ Evercore ISI ให้ความเห็นว่า “ถ้าคุณให้ข้อมูลนักลงทุนน้อยลงว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ อาจมีความเสี่ยงในการรับมือกับความผันผวนในราคาหุ้น เพราะนักลงทุนไม่มีคำชี้แนะในทางที่ถูก”
“คุณจะทำให้นักลงทุนแปลกใจมากขึ้นเมื่อคุณรายงานผลประกอบการแค่สองครั้งต่อปี แทนที่จะเป็นทุกไตรมาส”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนระบุว่า มีความเป็นไปได้ว่าการลดจำนวนความถี่ของการรายงานการเงินเหลือ 2 ครั้งต่อปีอาจช่วยลดปัญหาการบริหารแบบมองภาพระยะสั้นในกลยุทธ์ของบริษัท
Randy Frederick ที่ Charles Schwab แย้งว่าการเปลี่ยนแปลงสำคัญสำหรับทั้งบริษัทและผู้ค้าดูจะมีความยากพอๆกับการหมุนเรือควีนแมรีในสระว่ายน้ำ
“นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถจะเปลี่ยนได้ด้วยคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี” เขาเสริม
ทาง SEC ต้องการให้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสและรายงานการเงินประจำปีเพื่อช่วยให้นักลงทุนรับทราบข้เกี่ยวกับสถานะทางการเงินของพวกเขา
ขณะที่ทางรัฐบาลทรัมป์ต้องการลดระเบียบข้อบังคับที่มองว่า เป็นการลดจำนวนบริษัทที่เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ลงถึง 50% ในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา รวมทั้งผ่อนคลายการเปิดเผยและกฎระเบียบสำหรับบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แล้วและบริษัทที่ต้องการเข้ามาในตลาด
ในรายงานที่เผยแพร่โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯในปี 2560 รัฐบาลกำหนดกรอบนโยบายเพื่อหวังจะฟื้นฟูตลาด แต่กลับไม่ได้มีเนื้อหามากไปกว่าการชี้แนะว่ากฎการรายงานประจำไตรมาสควรมีการยกเลิกไป
ทั้งนี้ ทาง SEC ไม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้.