ไนกี้เตรียมขึ้นเงินเดือนพนักงานกว่า 7,000 คน
บริษัทไนกี้ เตรียมขึ้นเงินเดือนพนักงานกว่า 7,000 คน และจะปรับเปลี่ยนการให้โบนัสประจำปีกับพนักงานทั่วโลก เพื่อแก้ปัญหาความกังวลเกี่ยวกับความเสมอภาคในการจ่ายเงินและวัฒนธรรมขององค์กร
อ้างอิงจากข้อความภายในบริษัทที่ทางสื่อซีเอ็นบีซีได้ทราบ ทางบริษัทตัดสินใจที่จะปรับเปลี่ยนการจ่ายค่าจ้างใหม่ทั้งหมด หลังจากที่ทางบริษัทได้ทำการพิจารณาภายในเกี่ยวกับการจ่ายเงินเดือนเมื่อต้นปี
ทางบริษัทไนกี้ระบุว่า พนักงานของบริษัทกว่า 10% ทั้งชายและหญิง จะได้รับการปรับเงินเดือน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะได้รับความเท่าเทียม และเท่ากันกับพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่เดียวกันทั่วโลก
ข้อความดังกล่าวระบุว่า “ด้วยความเคลื่อนไหวจากความสามารถภายใน และความต้องการตามพลวัตของตลาด เราได้ทำการวิเคราะห์เรื่องการจ่ายเงินของทุก ๆ ปี โดยในปีนี้ เราได้ทำการวิเคราะห์แต่ละตำแหน่งในบริษัทให้ลึกลงกว่าเดิมในระดับสากล”
นอกจากนี้ทางบริษัทยังระบุว่า โครงการเพิ่มผลประโยชน์ให้พนักงานในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการสนับสนุนวัฒนธรรมที่ทำให้พนักงานรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท และเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานอีกด้วย
ทางไนกี้ระบุว่า โบนัสที่จะมอบให้พนักงาน ปัจจุบันจะขี้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัท แทนที่การมอบโบนัสตามแผนกที่มีผลการทำงานดี โดยยังได้รวมถึงผลประกอบการแบบกลุ่มและรายบุคคล ซึ่งจะเริ่มในปีงบประมาณ 2562
โดยภายหลังจากที่ทราบข่าวการเปลี่ยนแปลงของบริษัทไนกี้ มีรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ มีการขยับตัวเป็นตัวแรก เช่นเดียวกับบริษัทอื่น ๆ ภายในสหรัฐฯ ทางไนกี้ได้ให้ความสนใจกับความเคลื่อนไหวทางสังคมอย่าง กระแส #MeToo ก่อนหน้านี้ หลังจากกลุ่มผู้หญิงได้เผยแพร่แบบสำรวจอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมในการจ่ายค่าจ้าง และความก้าวหน้าทางอาชีพในบริษัทไนกี้เอง
ต่อมาได้มีผู้บริหารอาวุโสชายหลายรายขอลาออกจากบริษัท และในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มาร์ค ปาร์คเกอร์ ซีอีโอของบริษัท ได้ออกมาขอโทษกับพนักงาน เพื่อปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้พนักงานต้องผลักไสพนักงานบางส่วนออกไป และไม่ได้ลงมือจริงจังกับเรื่องที่ถูกร้องเรียนก่อนหน้านี้
สำหรับการปรับเปลี่ยนเงินเดือน ถือเป็นความตั้งใจล่าสุดของไนกี้ ที่อยากจะพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรเพื่อผู้หญิง ทางบริษัทไนกี้ได้แต่งตั้ง เอมี มอนเทน ให้เป็นรองประธานและผู้จัดการทั่วไปที่ดูแลผลิตภัณฑ์ทั่วโลก และเคลลี ลีโอนาร์ด รับหน้าที่เป็นฝ่ายบริหารด้านความหลากหลายและความเป็นหนึ่งของบริษัท
ในขณะเดียวกัน ทางบริษัทไนกี้พยายามที่จะผลักดันทั้งการออกผลิตภัณฑ์อย่าง รองเท้าผ้าใบ และเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงในพักหลังมานี้ โดยเป็นช่วงเดียวกันกับที่ยอดขายรองเท้าส้นสูงของผู้หญิงนั้นเริ่มทรุดตัวลง เนื่องจากนักช็อปหญิงหันมาสนใจการสวมเสื้อผ้ากีฬาและเสื้อผ้าลำลอง มากขึ้นแทนที่จะเป็นชุดเดรสสวยงาม
แม้จะมีเหตุอย่างกระแส #MeToo ทางบริษัทก็ได้พบว่า ทางลูกค้าหญิงไม่ได้แสดงความไม่พอใจต่อองค์กร หรือยอดขายที่ลดลงแต่อย่างใด ในทางกลับกัน ทางบริษัทกลับพยายามมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากผู้หญิง
นอกจากนี้ทางบริษัทไนกี้ยังให้ความสนใจกับการขายสินค้าบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของทางบริษัทและหน้าร้าน เพื่อให้สามารถขายกับลูกค้าได้โดยตรง
หุ้นของบริษัทไนกี้มีการซื้อขายเพิ่มขึ้น จากหุ้นต่ำสุดที่ 76.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2,546.05 บาท แต่ก็ยังคงลดลงกว่า 0.33% ในการปิดการซื้อขายเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา.