UK ชี้สงครามการค้าคือหายนะของทุกคน
รมว.กระทรวงการคลังของอังกฤษเตือนว่า ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐฯ เองก็จะไม่รอดจากหายนะที่เป็นผลต่อเนื่องจากสงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
การตั้งกำแพงภาษีตอบโต้กันไปมาระหว่างสหรัฐฯและอีกหลายประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจสั่นสะเทือนตลาดเงินทั่วโลกในช่วงไม่กี่วันมานี้
นักลงทุนพากันกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้า ‘America First’ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกทรุดตัวลง
“ เราอยู่ในช่วงเวลาของความผันผวน เพราะความแน่นอนที่มีมานานหลายทศวรรษ ที่สหรัฐฯ เคยเป็นผู้ประสานให้มีการเปิดตลาดและมีระบบการค้าเสรีโดยสมบูรณ์นั้นพังลงแล้ว ” ฟิลิป แฮมมอนด์ กล่าวกับสื่อ CNBC เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.
“ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถหลีกเลี่ยงจากสงครามการค้าเต็มรูปแบบ เพราะมันจะเป็นหายนะสำหรับทุกคน และกับสหรัฐฯด้วยเช่นกัน ” เขาเสริม
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.หุ้นของแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่อย่างฮาร์เลย์-เดวิดสันดิ่งลดลง ทำให้บริษัทตัดสินใจที่จะย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกจากสหรัฐฯ เพื่อเป็นการลดผลกระทบจากกำแพงภาษีของอียูที่โต้กลับสหรัฐฯ โดยที่ผ่านมา อียูถือเป็นตลาดใหญ่ของรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์นี้
“ แปลกใจว่าฮาร์เลย์-เดวิดสัน เป็นบริษัทแรกที่ยอมยกธงขาว ” ผู้นำสหรัฐฯทวีตบนทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ก่อนที่จะเสริมว่า “ ผมสู้หนักมากเพื่อพวกเขา และพวกเขาจะไม่ต้องจ่ายภาษีให้อียู ซึ่งกระทบการค้าของเราอย่างมาก ขาดดุล 151,000 ล้านดอลลาร์ ภาษีเป็นแค่คำแก้ตัวของฮาร์เลย์ – อดทนหน่อย ! ”
ฮาร์เลย์-เดวิดสัน บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐวิสคอนซินระบุว่า ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากภาษีที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงคุกคามยอดขายต่างประเทศของบริษัท ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทพยายามจะส่งเสริมให้เติบโตขึ้น
สัปดาห์ที่แล้ว อียูประกาศตั้งกำแพงภาษีโต้ตอบกับสินค้าของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงรถจักรยานยนต์ เบอร์เบินวิสกี้ และน้ำส้ม มาตรการนี้มีขึ้นหลังจากทรัมป์มีมาตรการภาษีของสหรัฐฯ กับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ
“ ผมจะหนุนอินเดียให้คิดเรื่องการเปิดตลาดให้มากขึ้น โดยกำจัดอุปสรรคการค้าที่ไม่ใช่ด้านภาษีเพื่อส่งเสริมการค้าและการแข่งขัน ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการผลิต เพิ่มรายได้และมาตรฐานความเป็นอยู่ ”