อาเซียนขานรับสันติภาพคาบสมุทรเกาหลี
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงของสิงคโปร์แถลงว่า อาเซียนจะสนับสนุนความพยายามที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีด้วยวิธีการสันติและขานรับการประขุมของทั้งสองเกาหลีด้วยความยินดี
ขณะที่วันที่ 29 เม.ย. ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์กล่าวชมว่า ประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือ (ซึ่งเขาเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นคนโง่) เป็นวีรบุรุษของทุกคน หลังจากสามารถทำงานร่วมกับเกาหลีใต้ในการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ในคาบสมุทรเกาหลี
การปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีเป็นหนึ่งในหลายสิ่งเพื่อการพัฒนาในภูมิภาคซึ่งบรรดาผู้นำประเทศมีการพูดคุยกันในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 32 ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้
ประธานาธิบดีดูเตอร์เตกล่าวว่า เขาขอแสดงความยินดีกับผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งกลายเป็นไอดอลต้นแบบให้เขา หากเขามีโอกาสได้พบกับประธานาธิบดีคิม เขาจะบอกกับผู้นำเกาหลีเหนือว่า “ ผมชื่นชมคุณ คุณรู้ว่าถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนแล้ว ”
“ สำหรับทุกช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาเห็นแต่ภาพเด็กเกเรในชุมชน แต่จากไม้เด็ดของท่าน ตอนนี้ท่านกลายเป็นวีรบุรุษของทุกคนไปแล้ว ” เขาตอบ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีคิมและประธานาธิบดีมุนแจอินในระหว่างการแถลงข่าว หลังจากเขาเดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดอาเซียนในสิงคโปร์
“ ท่านคิมดูเป็นคนมุ่งมั่น เป็นคนร่าเริงดี และเข้าถึงได้ง่าย” ผู้นำฟิลิปปินส์พูดถึงประธานาธิบดีคิม
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีดูเตอร์เตเคยวิจารณ์ผู้นำเกาหลีเหนือมากกว่าหนึ่งครั้งเกี่ยวกับความทะเยอทะยานเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ของเขา โดยในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว เขาได้ตั้งคำถามถึงสภาพจิตของผู้นำเกาหลีเหนือ และหนุนให้สหรัฐฯ ควบคุมอารมณ์และอย่าตกเป็นเหยื่อของผู้ชายที่ต้องการจะทำลายโลก 2- 3 เดือนหลังจากนั้น เขาบอกว่าประธานาธิบดีคิม โง่ ที่กำลังเล่นกับของเล่นที่อันตราย
แต่ตอนนี้เขากลับพูดว่า “ผมเป็นเพื่อนกับท่านได้ ผลกระทบเห็นได้ชัดว่า มีความตึงเครียดน้อยลงในคาบสมุทรเกาหลี และบางที แค่บางทีนะ เราอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามที่ไม่มีใครเป็นผู้ชนะเลยก็ได้ ”
ในการกล่าวในพิธีเปิดการประชุมอาเซียน นายกฯลีของสิงคโปร์เน้นถึงความจำเป็นที่อาเซียนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันเพื่อให้มีประสิทธิภาพในท่าทีต่อแนวโน้มภายนอก เช่น การกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
โดยบรรดาผู้นำในกลุ่มประเทศอาเซียนแสดงความกังวลเกี่ยวกับการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น และการย้ำถึงการสนับสนุนระบบการค้าเสรีพหุภาคี โดยสมาชิกทั้ง 10 ประเทศยืนยันถึงข้อผูกพันที่จะปรับปรุงข้อตกลงการค้าเสรีในอาเซียนและกระชับสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าในกลุ่มประเทศสมาชิกให้มากขึ้น
กลุ่มผู้นำเสริมว่า ได้แนะนำให้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขประเด็นที่เด่นชัดของความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค หรือ RCEP เพื่อให้ได้ข้อสรุปของการเจรจาใน 16 ประเทศสมาชิก
ในการแถลงข่าว นายกฯลีกล่าวว่า “ โดยรวมแล้ว ผมพอใจที่เราได้บรรลุคำสัญญาและการประชุมที่สร้างสรรค์ในการประชุมผู้นำอาเซียนที่สิงคโปร์”.