มาครงเยือนสหรัฐฯ คุยทรัมป์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯให้การต้อนรับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศสที่เดินทางมาเยือนกรุงวอชิงตันอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 เม.ย.นับเป็นการเยือนสหรัฐฯ ที่ดูจะให้ความสำคัญกับความแตกต่างกันเรื่องการค้าและข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
เนื่องจากผู้นำฝรั่งเศสมุ่งหน้ามาสหรัฐฯ รัฐบาลอิหร่านจึงกระตุ้นผู้นำยุโรปให้โน้มน้าวประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ให้ฉีกข้อตกลงที่ทำไว้ในปี 2558 ระหว่างอิหร่านและ 6 ประเทศมหาอำนาจ
โดยประธานาธิบดีมาครงระบุเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ว่า ยังไม่มีแผนสำรองที่จะทำตามที่อิหร่านต้องการเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์
“ การเยือนครั้งนี้มีความสำคัญมากในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากมีความผันผวน ปัญหาและภัยคุกคามจำนวนมาก ” มาครงกล่าวเป็นภาษาฝรั่งเศสเมื่อเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน
โมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ รมว.ต่างประเทศอิหร่านเรียกร้องให้ผู้นำในยุโรปสนับสนุนข้อตกลงเดิมที่ทำไว้ในปี 2558
“ เป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะไม่ทำอะไร ผู้นำยุโรปควรโน้มน้าวทรัมป์ ไม่เพียงแค่ให้คงตามข้อตกลงนิวเคลียร์ แต่สำคัญกว่านั้นคือทำในส่วนของเขาคือเจรจาต่อรองด้วยศรัทธาที่ดี ” ซาริฟทวีตบนทวิตเตอร์
ไม่นานหลังจากผู้นำฝรั่งเศสถึงแผ่นดินสหรัฐฯ ทำเนียบขาวแถลงว่า ไม่มีคำประกาศเกี่ยวกับดีลอิหร่าน
“ ท่านประธานาธิบดีแสดงความชัดเจนมากว่า ท่านคิดว่าข้อตกลงที่ทำนั้นแย่ และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้” ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกของทำเนียบขาวระบุ
โดยประธานาธิบดีมาครงให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวช่องฟ็อกซ์ว่า จะเป็นการดีกว่าที่จะปกป้องข้อตกลงเดิม แทนที่จะทำลายมันลง
“ นี่ไม่ใช่ข้อตกลงที่สมบูรณ์แบบหรือ และ JCPOA ดีอยู่แล้วสำหรับความสัมพันธ์กับอิหร่าน ? ไม่หรอก แต่เรื่องนิวเคลียร์ คุณจะมีทางเลือกที่ดีกว่านี้หรือ ? ผมไม่เห็นเลย”
ทั้งนี้ อิหร่านมีความคิดมายาวนานว่า โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศตัวเองมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องสันติภาพ
นอกจากนี้ มาครงยังต้องการโน้มน้าวให้ทรัมป์ยกเว้นการขึ้นภาษีนำเข้าโลหะกับชาติยุโรป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนทรัมป์ที่จะลดตัวเลขการขาดดุลการค้ากับหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะจีน
การมาเยือนของเขาเป็นเวลาเดียวกับที่สหรัฐฯจะมีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลกับอุตสาหกรรมการผลิตของยุโรปด้วย โดยทางการฝรั่งเศสระบุว่า ฝรั่งเศสและรัฐบาลอื่นๆในยุโรปมีความพยายามร่วมกันที่จะจูงใจทรัมป์ให้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียลง ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตอะลูมิเนียมของรัสเซีย
โดยฝรั่งเศสระบุว่า ฝรั่งเศส อิตาลี และไอร์แลนด์ทำงานประสานกันในประเด็นนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลแห่งเยอรมนีจะมีการพูดคุยกับผู้นำสหรัฐฯในกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้
มาครงและทรัมป์ได้มีการพูดคุยเรื่องซีเรียกันไม่ถึงสองสัปดาห์ หลังจากสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอังกฤษเข้าโจมตีทางอากาศกับซีเรียเพื่อเป็นการตอบโต้ที่ซีเรียมีการใช้อาวุธเคมีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับสิบราย
ในสัปดาห์ก่อน มาครงกล่าวว่า เขาเชื่อว่าเขาได้โน้มน้าวทรัมป์ให้คงกำลังทหารกองทัพสหรัฐฯ ไว้ในซีเรียเช่นเดิม แม้ทรัมป์จะยืนยันความคิดที่จะให้มีการถอนทหารสหรัฐฯ ที่ประจำการในซีเรียกลับบ้านก็ตาม.