อาบูดาบีหวังท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจ
อ้างอิงจากข้อมูลของผู้อำนวยการด้านการท่องเที่ยวในเมืองอาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม
Saif Saeed Ghobash ระบุว่า การท่องเที่ยวช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประเทศเกี่ยวกับแนวทางการลดทอนการใช้ไฮโดรคาร์บอน ซึ่งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์พึ่งพาพลังงานดังกล่าวมาอย่างยาวนาน
Saif Saeed Ghobash ซึ่งรับตำแหน่งผู้อำนวยการทั่วไปของกรมส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระบุกับนักข่าวของซีเอ็นบีซี หรือ Hadley Gamvle ว่า “ อาบูดาบีมุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างในค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหรือ GDP ให้ห่างจากการใช้พลังงานน้ำมันในระดับประเทศ และหนึ่งในด้านที่ทำให้เราพร้อมจะทำเช่นนี้คือการท่องเที่ยว และผลผลิตจากการท่องเที่ยวจะส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อม ”
จากในปี 2558 ที่เกิดสถานการณ์ราคาน้ำมันทั่วโลกตกต่ำ ส่งผลให้ประเทศที่ส่งออกน้ำมันเป็นหลักจำเป็นต้องมองหาทางเลือกอื่นเพื่อกระตุ้นการเติบโตและรายได้ของประเทศ
แม้ว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านเศรษฐกิจมากที่สุดในกลุ่มประเทศสภาความร่วมมืออ่าวอาหรับ หรือ GCC แต่น้ำมันก็ยังมีสัดส่วนอยู่ราว 30% จากค่า GDP ทั้งหมดของประเทศ ซึ่งทางรัฐบาลต้องการจะลดตัวเลขให้เหลือเพียง 20% ภายในปี 2564
จากการที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ที่ใช้ทุนสร้างถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 4 หมื่นล้านบาท เปิดตัวในอาบูดาบี เมื่อเดือนพ.ย. ปีก่อน ทาง Saif Saeed Ghobash คาดหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในอนาคตจะเพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับการสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของผลงานทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมให้กับประชาชนชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทั้งหมด 1.14 ล้านคน
การตระหนักถึงคุณค่าของงานศิลปะ ถือว่าสำคัญสำหรับการส่งเสริมการเจรจาระหว่างประเทศ การต่อต้านลัทธิหัวรุนแรง พัฒนาการศึกษา และช่วยให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจสำเร็จลุล่วง
เขาระบุว่า “ มันขึ้นอยู่กับการที่เราจะสร้างพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน เพื่อให้พวกเขาได้พูดคุยให้ได้เข้าใจถึงการเชื่อมโยงถึงกันและกัน มันคือสารแห่งสันติสุข ” โดยเขายังได้อ้างถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จ แต่เขาก็เสริมอีกว่า ขั้นตอนต่อไปคือการดึงดูดภาคเอกชนให้มากยิ่งขึ้น
เขาชี้ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมที่เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่มขึ้น 10% ในปีก่อน และทางรัฐบาลตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่อปีมากถึง 8.5 ล้านคน
ซึ่งคาดว่า งานขนาดใหญ่อย่างดูไบ เวิร์ลด์ เอ็กซ์โป ที่จะจัดขึ้นในปี 2563 จะมีส่วนช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้
อ้างอิงจากผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลกประจำปี 2560 โดยมาสเตอร์การ์ด ระบุว่า การท่องเที่ยวในเมืองอาบูดาบีสูงขึ้น 18.9% ในช่วงระหว่างปี 2551-2559 ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก
สำหรับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อไปของอาบูดาบี คือการพยายามที่จะจัดงานที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ทุก ๆ ปี โดย Saif Saeed Ghobash เสริมว่า สิ่งนี้จำเป็นต้องพึ่งพา “ ความสามารถในการริเริ่มสิ่งใหม่ เพื่อทำลายความเป็นตัวเราในอดีต และเพื่อต่อสู้นอกจากแค่น้ำมัน ” ของชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์.