ญี่ปุ่นเพิ่มคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
ญี่ปุ่นเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่กับเกาหลีเหนือ เพื่อเป็นการกดดันให้เกาหลีเหนือยอมระงับโครงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกล
นายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แถลงว่า จะมีการอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก 19 องค์กรและบุคคล โดยทางการญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่จะเฝ้าจับตามองมากกว่า 210 องค์กรและบุคคลในประเทศอื่นๆ รวมทั้งในจีนและรัสเซียอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการขึ้นบัญชีดำธุรกิจต่างๆ ทั้งธนาคาร ผู้ค้าถ่านหินและแร่ต่างๆ รวมถึงบรรดาบริษัทขนส่งด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศระบุว่า ทั้ง 19 องค์กรที่ถูกขึ้นบัญชีดำในวันที่ 15 ธ.ค.มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเกาหลีเหนือ โดยบริษัท Korea Computer Center มีสาขาในเยอรมนี จีน ซีเรีย อินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สถาบันการเงินหน้าใหม่ที่ถูกขึ้นบัญชีดำคือ Kumgang Bank , North East Asia Bank และ Rason International Commercial Bank รวมถึงผู้ค้าอย่าง Korea Ocean Shipping Agency ซึ่งมีสำนักงานทั้งหมด 8 แห่งในเกาหลีเหนือ
จากองค์กรและบุคคลที่ถูกญี่ปุ่นอายัดทรัพย์สินทั้งหมด มี 88 องค์กรและบุคคล 101 รายที่เป็นสัญชาติเกาหลีเหนือ ส่วนที่เหลือเป็นองค์กของจีน 7 แห่งและบุคคลชาวจีน 5 ราย องค์กรของสิงคโปร์หนึ่งแห่งและบุคคลชาวสิงคโปร์หนึ่งราย และองค์กรนามิเบียอีก 2 แห่ง
โดยมาตรการคว่ำบาตรของญี่ปุ่นมีขึ้นก่อนการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประขาขาติซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ญี่ปุ่น แถลงว่า กำลังประสบกับภัยคุกคามที่กำลังกดดันอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หลังจากเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ข้ามน่านฟ้าของญี่ปุ่นในเดือนก.ย.ปีนี้
“เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธ ICBM ที่ตกลงในเขตเศรษฐกิจของเราและยังคงมีท่าทียั่วยุอย่างต่อเนื่อง” นายซูกะกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.
นายซูกะกล่าวว่า จะอายัดทรัพย์สินมากขึ้นกว่านี้เพื่อเพิ่มแรงกดดันแก่เกาหลีเหนือ ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้มีการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดกับเกาหลีเหนือแล้ว โดยมีการแบนการค้าที่ครอบคลุม รวมถึงที่ท่าเรือด้วย
นอกจากนี้ เกาหลีใต้และสหรัฐฯยังมีมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของตัวเอง เพิ่มเติมจากมติคว่ำบาตรจากสหประชาชาติ โดยในส่วนของสหรัฐฯ ได้อายัดทรัพย์สินไปแล้วประมาณ 150 องค์กรและบุคคล 150 ราย อ้างอิงจากกระทรวงต่างประเทศ
ทั้งนี้ การประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.มีเป้าหมายที่จะแสวงหาวิธีการที่เปี่ยมด้วยสันติเพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลและอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นพื้นที่ปลอดนิวเคลียร์อย่างแท้จริง.