จีนผุดตึกระฟ้ามากสุดปีนี้
ทั่วโลกมีการสร้างตึกระฟ้ามากที่สุดในปี 2560 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อ้างอิงจากข้อมูลที่เผยแพร่โดยสภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (CTBUH)
โดยมีทั้งหมด 144 ตึกที่สูง 200 เมตรหรือสูงเกินกว่านั้นที่สร้างเสร็จในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 มากกว่า 13% อ้างอิงจากรายงานประจำปีของ CTBUH ทั้งนี้ ตึกสูงในจีนมีมากกว่าครึ่งของตึกสูงทั้งหมดทั่วโลกในปีนี้ โดยมีถึง 77 ตึกที่สร้างอยู่ใน 36 เมืองใหญ่
ในจำนวนนี้ มีตึกระฟ้าผุดขึ้นในเมืองใหญ่ทางใต้ของจีนอย่างเซินเจิ้นมากที่สุด โดยเซินเจิ้นครองสถิตินี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แล้ว ด้วยจำนวนตึกระฟ้ามากถึง 12 ตึกในปี 2560 นี้ มากกว่าทุกเมืองของสหรัฐฯ รวมกัน ตึกระฟ้าแห่งใหม่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในปีนี้คือตึก Ping An Finance Center ก็ตั้งอยู่ในเซินเจิ้น โดยตึกนี้มีความสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก
เมืองหนานหนิง ซึ่งอยู่ในมณฑลกวางสี ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวนตึกระฟ้าแห่งใหม่มากถึง 7 ตึก ขณะที่เมืองเฉิงตูมีตึกใหม่ 5 ตึกเท่ากับกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย และเมืองฉางชากับอู่ฮั่นของจีนครองอันดับร่วมกันกับนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เมืองโตรอนโต ในแคนาดา ปูซานในเกาหลีใต้ และเปียงยางในเกาหลีเหนือ โดยมีจำนวนตึกระฟ้าใหม่เท่ากันคือ 4 ตึก
ถึงแม้จีนจะโดดเด่นในการก่อสร้างตึกระฟ้า แต่ในรายงานประจำปีของ CTBUH ระบุว่าปีนี้เป็นปีที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ คือมีถึง 23 ประเทศที่ติดอันดับ ซึ่งรวมถึงศรีลังกาและเคนยาที่เพิ่งสร้างตึกสูงเกิน 200 เมตรเสร็จสมบูรณ์เป็นครั้งแรก
จากอิสตันบุลถึงคัลการี หลายเมืองทั่วโลกสร้างตึกใหญ่ที่สุดของตัวเองสำเร็จ ตึกลอตเต้ เวิลด์ ทาวเวอร์ในกรุงโซลเป็นตึกที่สูงที่สุดของเกาหลีใต้ และสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก ขณะที่ตึก Wilshire Center ในลอสแองเจลิสคือตึกลอฟต์ที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย และสูงเป็นอันดับ 10 ในสหรัฐฯ
ในปี 2560 นี้ นับเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันที่สถิติโลกถูกทำลาย จำนวนของตึกระฟ้าแห่งใหม่เพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่า 2 เท่าตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา เมื่อตึกเพียง 69 แห่งเสร็จสมบูรณ์
ตึกสูงยังคงให้ความรู้สึกดีในด้านเศรษฐกิจ โดย Shawn Ursini บ.ก.ศูนย์ข้อมูลตึกระฟ้าของ CTBUH ทำนายว่าในปี 2561 จะเห็นตึกสูงแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 130-160 ตึก แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าอาจขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจในจีน
“ มีเงินทุนจากจีนจำนวนมากในการสร้างตึกระฟ้าในประเทศอื่น ” ปัจจัยสำคัญอย่างเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลกับจำนวนโครงการ และไม่เพียงแต่ในจีนเท่านั้น Ursini กล่าว
“ เราเห็นตึกที่คาดว่าจะเสร็จในปีนี้ แต่กลับล่าช้าไปเสร็จในปีหน้า ซึ่งอาจจะเกี่ยว หรือไม่เกี่ยวโดยตรงกับเศรษฐกิจในจีน แต่ก็มีแนวโน้มที่น่าสนใจ มีหลายปัจจัยที่ทำให้โครงการล่าช้า แต่เรื่องเงินทุนเป็นหนึ่งในนั้น ”