ซัมซุงกำไรพุ่ง
ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์รายงานผลกำไรต่อไตรมาสที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญคือยอดขายของเมมโมรีชิปและยอดขายสมาร์ทโฟนที่ฟื้นตัว
โดยรายได้สุทธิของไตรมาสเดือนก.ค. – ก.ย.สูงถึง 11.2 ล้านล้านวอน หรือราว 334,100 ล้านบาท สูงเกือบ 3 เท่าจากไตรมาสเดียวกันในปี 2559
เป็นที่น่าแปลกใจว่า รายได้ของบริษัทยังคงพุ่งทะยานแม้บริษัทกำลังประสบกับวิกฤต และควอนโอฮยอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทจะเพิ่งขอลาออกไปไม่กี่สัปดาห์ก็ตาม
โดยในช่วงเวลานั้น ซีอีโอควอนได้กล่าวว่า ผลกำไรของบริษัทในปัจจุบันเป็นผลจากการตัดสินใจและการลงทุนที่เกิดขึ้นในอดีต
เขาตัดสินใจลาออกหลังจากนายอีแจยอง ทายาทของซัมซุงกรุ๊ปเริ่มต้นกระบวนการยื่นอุทธรณ์ในกรณีที่เขาถูกศาลชั้นต้นตัดสินให้ต้องโทษจำคุก 5 ปี จากข้อหาให้สินบนและคอร์รัปชั่น โดยเขายอมรับว่าได้จ่ายเงินให้กับเพื่อนสนิทของอดีตประธานาธิบดีพัคกึนฮเยเพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งเป็นผลทำให้อดีตประธานาธิบดีพัคต้องถูกถอดถอนจากตำแหน่งและอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีเช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์เปรียบเสมือนเพชรยอดมงกุฎของอาณาจักรซัมซุง ซึ่งมีบริษัทในเครือประมาณ 60 แห่ง เพราะเป็นบริษัทที่ทำกำไรสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา
โดยซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์บรรยายผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุดว่า เป็นผลประกอบการที่แข็งแกร่งโดยรวม
บริษัทซึ่งเป็นผู้ผลิตเมมโมรีชิปและสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกคาดการณ์ว่า ดีมานด์ในสินค้าของบริษัทจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อผลกำไรประจำปีนี้ด้วย
บริษัทยังระบุว่า มีแผนจะจ่ายเงินปันผลประมาณ 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 868,660 ล้านบาทให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทภายใน 3 ปีหน้านี้
ขณะที่เมมโมรีชิปเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้บริษัทมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ธุรกิจส่วนสมาร์ทโฟนก็ได้อานิสงส์จากสมาร์ทโฟนรุ่น Note 8 ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงล่าสุดและมียอดสั่งซื้อล่วงหน้าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทด้วยเช่นกัน
นับเป็นการฟื้นตัวอย่างสวยงามของซัมซุง หลังจากในปีที่แล้ว บริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสมาร์ทโฟนรุ่น Note 7 ที่มีปัญหาแบตเตอรีที่ร้อนจนติดไฟและระเบิด.