อังกฤษ เตรียมบริจาควัคซีน AZ ให้ไทย 4.1 แสนโดส
สหราชอาณาจักร เตรียมบริจาควัคซีน AZ ให้ไทย 4.1 แสนโดส ด้าน บิ๊กตู่ ชี้ สะท้อนความสัมพันธ์ 2 ประเทศ
นายโดมินิก ราบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาของสหราชอาณาจักร ประกาศเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 64 ว่าสัปดาห์นี้สหราชอาณาจักร จะเริ่มส่งออกวัคซีนโควิด-19 จำนวน 9 ล้านโดส ให้ทั่วโลกเพื่อช่วยรับมือปัญหาการระบาด
ในจำนวนนี้ 5 ล้านโดสจะบริจาคเข้าโครงการ COVAX ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทั่วโลกเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียม โดย COVAX จะเร่งแจกจ่ายวัคซีนเหล่านี้ให้ประเทศรายได้ต่ำผ่านระบบการจัดสรรอย่างเป็นธรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการจัดหาวัคซีนแก่ผู้ที่มีความจำเป็นมากที่สุดก่อน ส่วนอีก 4 ล้านโดสจะบริจาคให้กับประเทศต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นโดยตรง
นายโดมินิก ราบ กล่าวว่า ประเทศไทยจะได้รับบริจาคจำนวน 415,000 โดส อินโดนีเซีย 600,000 โดส จาเมกา 300,000 โดส และเคนยา 817,000 โดส โดยวัคซีนที่บริจาคนี้เป็นวัคซีนออกซฟอร์ด-แอสตร้าเซนเนก้า ผลิตโดย Oxford Biomedica และบรรจุในเมือง Wrexham ในตอนเหนือของเวลส์
“วัคซีนที่บริจาคนี้เป็นชุดแรกจากจำนวนทั้งสิ้น 100 ล้านโดสที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันประกาศในการประชุมสุดยอดผู้นำจี 7 เมื่อเดือนที่แล้วว่าสหราชอาณาจักรจะบริจาคให้ครบภายในปีหน้า โดยจะบริจาคให้ได้ 30 ล้านโดสภายในปีนี้ และจากในจำนวนนี้ 80 ล้านโดสจะบริจาคเข้าโครงการ COVAX ทั้งนี้บรรดาผู้นำจี 7 ต่างให้คำมั่นว่าจะช่วยกันให้ทั่วโลกได้ฉีดวัคซีนและหยุดยั้งการระบาดให้ได้ในปี 2022“
ที่ประเทศไทย นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณมิตรไมตรีที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศว่าจะส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัท AstraZeneca จำนวน 415,040 โดสให้แก่ประเทศไทยในช่วงต้นเดือน ส.ค. 2564 ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โดยรัฐบาลไทยจะดำเนินการตามแผนกระจายวัคซีนเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน บรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค และนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศโดยเร็วที่สุด
นายอนุชา กล่าวว่า การมอบวัคซีนจากสหราชอาณาจักร สะท้อนถึงความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร ตลอดจนสะท้อนบทบาทของสหราชอาณาจักรในฐานะมิตรประเทศที่มีความร่วมมือกับไทยในหลายมิติมายาวนาน โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข ที่ไทยและสหราชอาณาจักรมีความร่วมมือมาอย่างใกล้ชิดและครอบคลุมหลากหลายด้าน
โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย อันได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข เร่งดำเนินตามขั้นตอนต่อไป พร้อมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหราชอาณาจักร เพื่อให้การรับมอบวัคซีนเป็นไปอย่างเรียบร้อยและรวดเร็วที่สุด รวมทั้งให้เตรียมแนวทางพร้อมดำเนินการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ทันทีเมื่อได้รับวัคซีน