เหตุก่อการร้ายครั้งแรกในฟินแลนด์
ตำรวจในฟินแลนด์ระบุว่า มือมีดที่สังหาร 2 คนในเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Turku เมื่อวันที่ 18 ส.ค.มีผู้หญิงเป็นเป้าหมายในการลงมือก่อเหตุ และตำรวจมองว่าเหตุร้ายครั้งนี้เป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย
โดยผู้ต้องสงสัยซึ่งถูกจับกุมตัวหลังจากถูกตำรวจยิงเป็นชายชาวโมร็อกโกวัย 18 ปี และมีชายชาวโมร็อกโกอีก 4 คนที่ถูกควบคุมตัวผู้หญิงทั้ง 2 คนที่ถูกแทงจนเสียชีวิตเป็นชาวฟินแลนด์และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวอังกฤษ สวีเดนและอิตาเลียน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า อายุของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีอายุตั้งแต่ 15 – 67 ปี แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมมากกว่านี้
นายกรัฐมนตรี Juha Sipila กล่าวในงานแถลงข่าวว่า ฟินแลนด์เพิ่งจะประสบกับเหตุก่อการร้ายเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ตำรวจกล่าวในแถลงการณ์ว่า “เจ้าหน้าที่สืบสวนระบุเหตุการณ์นี้ว่าเป็นฆาตกรรม แต่ในระหว่างคืนนั้น เราได้รับข้อมูลเพิ่มเติมที่ชี้ว่า เหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้าย” โดยตำรวจชี้แจงว่า สามารถระบุตัวตนชายชาวโมร็อกโกวัย 18 ปีได้แล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดออกมา
Crista Granroth จากสำนักงานสืบสวนกลาง กล่าวว่า “ดูเหมือนว่าผู้ต้องสงสัยจะเลือกเป้าหมายเป็นผู้หญิง เพราะกลุ่มชายที่มีบาดแผลได้รับบาดเจ็บ เพราะพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือ หรือป้องกันการโจมตี” เธอกล่าวว่า 6 ใน 8 คนที่ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้หญิง
ชายชาวโมร็อกโกวัย 18 ปีซึ่งยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล ถูกยิงบาดเจ็บที่ขา และอีก 2 คนยังคงอยู่ในโรงพยาบาล โดยเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นในย่านจตุรัสตลาด Puutori ของเมือง Turku
Laura Laine พยานในที่เกิดเหตุ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “สิ่งแรกที่เราได้ยินเป็นเสียงผู้หญิง ร้องดังเหมือนคนบ้า ตอนแรกดิฉันคิดว่าเป็นแค่เด็กๆร้องเล่นสนุกๆกัน แต่คนเริ่มเคลื่อนไหวไปทั่ว และดิฉันก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งถือมีด กำลังแทงผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วก็มีคนวิ่งร้องตะโกนว่า เขามีมีด และทุกคนก็วิ่งเข้าไปข้างใน ต่อมาผู้หญิงก็เข้าไปในคาเฟ่ เธอร้องแบบเจ็บปวดมาก คุกเข่าล้มลงแล้วก็บอกว่ามีอีกคนถูกปาดคอ” ทั้งนี้ มีการประกาศให้ชักธงลงครึ่งเสาในฟินแลนด์เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับเหยื่อในเหตุการณ์ที่เลวร้าย
Paula Risikko รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ทวีตบนทวิตเตอร์ว่า “เราจะไม่ยอมให้สิ่งที่ผู้ก่อการร้ายต้องการเกิดขึ้น สังคมในฟินแลนด์จะไม่ยอมแพ้ต่อความกลัว หรือความเกลียดชัง”
โดยรัฐมนตรีระบุว่า มีการยกระดับการเฝ้าระวังด้านความมั่นคงให้เข้มงวดขึ้นทั่วประเทศฟินแลนด์.