เกาหลีใต้ขอวัคซีนสหรัฐฯ แลกกับที่เคยช่วยก่อนหน้านี้

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. รมว.ต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า เขาหวังว่าสหรัฐฯจะช่วยเหลือเกาหลีใต้ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัคซีนต้านโควิด-19 เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการที่เกาหลีใต้เคยส่งชุดตรวจหาเชื้อไวรัสและหน้ากากอนามัยไปให้สหรัฐฯในช่วงแรกของการแพร่ระบาด
คำขอร้องนี้มีขึ้นเนื่องจากรัฐบาลเกาหลีใต้ถูกกดันจากสื่อในประเทศว่าไม่ทำอะไรเพื่อจัดหาวัคซีนให้เพียงพอก่อนหน้านี้ โดยเกาหลีใต้ฉีดวัคซีนไปเพียง 3% ของจำนวนประชากรในประเทศจากซัพพลายวัคซีนที่ไม่เพียงพอและการเข้าถึงวัคซีนที่จำกัด
“ เราเน้นย้ำกับสหรัฐฯว่า เพื่อนในยามที่ต้องการคือเพื่อนแท้” รมว.ชองอึยยองกล่าวกับสื่อที่ควอนฮุนคลับ ที่เป็นสมาคมตัวแทนนักหนังสือพิมพ์ในเกาหลีใต้
เขาระบุว่า เกาหลีใต้ได้จัดส่งชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 และหน้ากากอนามัยจำนวนมากไปให้สหรัฐฯ ในช่วงแรกของการระบาด “ด้วยสปิริตของพันธมิตรพิเศษระหว่างเกาหลีใต้ – สหรัฐฯ แม้ในช่วงเวลานั้น ซัพพลายในประเทศก็ค่อนข้างจำกัด”
“ เราหวังว่า สหรัฐฯจะช่วยเหลือเราในสถานการณ์วัคซีนที่เรากำลังประสบอยู่ บนพื้นฐานของความเป็นเอกภาพอย่างที่เราแสดงให้เห็นในปีที่แล้ว”
รมว.ชองระบุว่า ทั้งสองประเทศอยู่ในระหว่างการพูดคุยและยกประเด็นการกระจายวัคซีนให้ซัพพลายเชนทั่วโลกที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนมุ่งมั่น
พัคจิน นักกฎหมายจากพรรคฝ่ายค้าน เรียกร้องให้รัฐบาลมีท่าทีการร้องขอวัคซีนทางการทูตที่ดุดันกว่านี้ และกระตุ้นให้รัฐบาลทำข้อตกลงFTA กับสหรัฐฯ เพื่อเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยา
“รัฐบาลจำเป็นต้องแสดงท่าทีเชิงรุกมากกว่านี้ และ FTA จะทำให้เรามีหลักทางกฎหมายเพื่อขอวัคซีนเนื่องจากเป็นเงื่อนไขที่ทั้งสองประเทศต้องทำตามเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยา” พัคกล่าวกับสื่อรอยเตอร์
โดยสถานทูตสหรัฐฯในกรุงโซลยังไม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้
ประชาชนประมาณ 1.77 ล้านคนในเกาหลีใต้ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกของแอสตราเซเนกา หรือของไฟเซอร์ – ไบออนเทคแล้ว ถือเป็นอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ ที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 40% จากข้อมูลของสื่อรอยเตอร์
ในวันที่ 20 เม.ย. เกาหลีใต้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 731 รายต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 549 รายต่อวัน และทำให้ตัวเลขผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 115,926 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 1,806 ราย