เด็กตาย 60 คนในโรงพยาบาลอินเดีย
คนไข้เด็กอย่างน้อย 60 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลของรัฐทางตอนเหนือของอินเดีย อ้างอิงจากรายงาน ท่ามกลางการกล่าวหาว่า ไม่มีออกซิเจนเพียงพอให้บริการเนื่องจากโรงพยาบาลไม่จ่ายบิล
ทางการรัฐอุตตรประเทศยอมรับว่า ออกซิเจนในโรงพยาบาลอาจมีไม่เพียงพอ แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตของคนไข้เด็ก
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีความตื่นตระหนกโกลาหลในโรงพยาบาล เนื่องจากญาติๆของคนไข้พยายามช่วยให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องช่วยหายใจที่ใช้ถุงออกซิเจนแบบบีบด้วยมือแทน โดยเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่ซึ่งเป็นทารกแรกเกิด – 12 ปีอยู่ในห้องทารกแรกเกิด หรือกำลังรับการรักษาโรคสมองอักเสบ
ทางโรงพยาบาลรายงานว่า การเสียชีวิตเกิดขึ้นในช่วง 5 วันจากวันที่ 7 – 11 ส.ค.ที่โรงพยาบาล Baba Raghav Das ในเขตโคราฆปุระ โดยมีการบันทึกผู้เสียชีวิตไว้แล้ว 30 ราย
Anil Kumar เจ้าหน้าที่ประจำเขตระบุว่า มีประเด็นเกี่ยวกับการที่โรงพยาบาลไม่จ่ายเงินค่าออกซิเจนเพื่อใช้ในเครื่องช่วยหายใจจริง แต่การเสียชีวิตของคนไข้เกิดจากสาเหตุตามปกติของโรค เนื่องจากคนไข้ส่วนใหญ่ล้วนมีอาการหนัก
“เราจะได้รับถังออกซิเจนเหลวมากขึ้นในคืนนี้หรือวันพรุ่งนี้ และได้เคลียร์จ่ายให้ซัพพลายเออร์ตามกำหนดหมดแล้ว”
ภูมิภาคนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ยากจนที่สุดในอินเดีย และมีบันทึกสถิติเกี่ยวกับเด็กๆที่เจ็บป่วยจากโรคร้าย รวมถึงโรคสมองอักเสบทุกๆปี
รัฐมนตรีสาธารณสุขประจำรัฐปฏิเสธในประเด็นที่ว่า เด็กๆเสียชีวิตเพราะขาดออกซิเจน โดยเขากล่าวว่า อัตราเสียชีวิตเฉลี่ยต่อเดือนในเดือนส.ค.ที่โรงพยาบาลอยู่ระหว่าง 19 – 22 รายในช่วง 3 ปีล่าสุด
“ไม่มีการขาดแคลนออกซิเจนในโรงพยาบาล เป็นความจริงว่า มีการขาดแถลนถังออกซิเจนฉุกเฉินนาน 2 ชั่วโมง แต่ระหว่างนั้น ก็มีการใช้เครื่องช่วยหายใจที่ใช้มือช่วยทดแทน”
ลุงของเด็กหญิงวัย 11 ปีซึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลกล่าวกับสำนักข่าว ABP ว่า “เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนั้น เจ้าหน้าที่บอกเราให้บีบถุงออกซิเจนหลังจากนับตลอดเวลาถึง 3 เราก็ทำตามนั้น”
จากแถลงการณ์ของโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลกล่าวว่า ความดันของออกซิเจนเหลวลดน้อยลง และมีการจัดการเรื่องถังออกซิเจนสำรอง แต่ไม่ได้เจาะจงว่าส่งผลกระทบให้มีผู้เสียชีวิต และทำไมเด็กจำนวนมากจึงเสียชีวิตในช่วงเวลาเพียง 2 วัน
ผู้สื่อข่าวบีบีซีในนิวเดลีรายงานว่า กรณีนี้ก่อให้เกิดความโกรธเคืองอย่างรุนแรงในอินเดีย โดยบางคนเรียกว่าเป็นการสังหารหมู่ เจ้าหน้าที่รัฐกล่าวว่า กำลังมีการสอบสวนถึงสาเหตุ และประธานาธิบดีโมดิทวีตข้อความในทวิตเตอร์ว่า เขาเฝ้าจับตามองสถานการณ์นี้อยู่.