รื้อเต็นท์คนไร้บ้านใจกลางซิดนีย์
‘เมืองเต็นท์’ ที่ตั้งอยู่ใจกลางซิดนีย์ซึ่งกลายเป็นประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับคนไร้บ้านในออสเตรเลียถูกรื้อถอนหลังจากมีการเปิดตัวกฎหมายใหม่
โดยกลุ่มคนไร้บ้านเคยตั้งเต็นท์ที่ มาร์ติน เพลซ ใจกลางซิดนีย์และพักอาศัยมาเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ แย้งว่า กลุ่มเต็นท์ซึ่งเป็นที่พำนักของกลุ่มคนไร้บ้านนั้นไม่ได้รับอนุญาตแต่อย่างใด และสร้างความไม่ปลอดภัยในสังคม โดยภายหลังได้มอบอำนาจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรื้อถอนเต็นท์ทั้งหมด แต่ผู้อยู่อาศัยเริ่มทยอยย้ายออกจนเกือบหมดตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมาและกลุ่มคนไร้บ้านบางส่วนระบุว่า พวกเขาไม่มีที่ไหนให้ไป
Lanz Priestly ผู้รับหน้าที่เป็นนายกเทศมนตรีของเมืองเต็นท์อย่างไม่เป็นทางการระบุว่า ผู้คนบางรายอาจจะต้องไปอาศัยที่ “บ้านของเพื่อน” หรือบางคนอาจจะต้องไปที่ “สวนหลังบ้านของเพื่อน” แต่สำหรับบางคนแล้ว พวกเขาไม่มีตัวเลือกใด ๆ ให้เดินทางไปอาศัยเลย
การถกเถียงและหารือว่าควรทำอย่างไรกับเต็นท์ของคนไร้บ้านลากยาวเป็นระยะเวลาหลายเดือน ท่ามกลางข้อพิพาททางการเมืองระหว่างรัฐบาลรัฐนิว เซาต์ เวลส์ และสภาเมืองซิดนีย์
นอกจากนี้ยังมีประเด็นการโต้แย้งเกี่ยวกับกลุ่มคนไร้บ้านในออสเตรเลียอย่างกว้างขวางอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันออสเตรเลียถือเป็นประเทศที่มีราคาที่อยู่อาศัยสูงจนเอื้อมไม่ถึงที่สุดเป็นินดับ 2 ในโลก
เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางรัฐได้ผ่านกฎหมายใหม่ เพื่อมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ากำจัดสิ่งกีดขวางในบริเวณดังกล่าว โดยกฎหมายมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา
Gladys Berejiklian นายกรัฐมนตรีของนิว เซาต์ เวลส์ ระบุว่า “การไร้บ้านถือเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในสังคมที่เราต้องแก้ไข และผมภูมิใจในการกระทำของรัฐบาลที่ช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทั้งหลาย และแน่นอนว่าเรายังมีอะไรต้องทำอีกมากครับ”
“อย่างไรก็ตาม เราจะไม่ยอมให้ผู้คัดค้านเข้ามาเล่นเกมทางการเมือง และหาประโยชน์จากทางผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือและสนับสนุนที่แท้จริงแน่นอน”
ทางด้านนาย Priestly ระบุว่า เหล่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จัดการกับปัญหาการไร้บ้านอย่างจริงจังเท่าที่ควร
นาย Priestly ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเทเลกราฟท์ ซิดนีย์ว่า “พวกเขาไม่ได้มองดูพวกเราหรอก พวกเขามองดูเพียงแต่กลุ่มเต็นท์เท่านั้น”
ปัจจุบัน ในประเทศออสเตรเลีย มีกลุ่มคนไร้บ้านมากกว่า 150,000 ราย.