เดนมาร์กหยุดใช้วัคซีน ‘แอสตราเซเนกา’ หลังพบลิ่มเลือด
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. เดนมาร์กกลายเป็นประเทศแรกที่ประกาศหยุดใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา หลังพบความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนกับภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
โดยกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้กำหนดการฉีดวัคซีนของเดนมาร์กล่าช้าออกไปเป็นต้นเดือนส.ค. จากเดิม 25 ก.ค.
แต่ไทม์ไลน์ใหม่ที่คาดการณ์ว่าจะเริ่มใช้วัคซีนของ บ.จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ก็มีประเด็นการกระจายวัคซีนล่าช้าในยุโรปจากความกังวลเรื่องลิ่มเลือดที่มีรายงานในสหรัฐฯ เช่นกัน โดยอ.ย.สหรัฐฯเพิ่งสั่งระงับวัคซีนของ J&J ชั่วคราว
โซเรน บรอสต์รอม รมว.สาธารณสุขเดนมาร์กระบุในการแถลงข่าวว่า ผลการสอบสวนวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่มีความเชื่อมโยงกับภาวะลิ่มเลือด “แสดงให้เห็นชัดเจนถึงผลข้างเคียงที่เป็นจริงและร้ายเแรง”
“ ดังนั้น เราจึงเลือกเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนต่อไปสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยไม่ใช้วัคซีนตัวนี้”
บ.แอสตราเซเนการะบุว่า เคารพทางเลือกของเดนมาร์ก และจะจัดหาข้อมูลต่อไปเพื่อชี้แจงประกอบการตัดสินใจในอนาคต
“ การกระจายวัคซีนและการนำไปใช้งานเป็นเรื่องที่แต่ละประเทศจะตัดสินใจ บนพื้นฐานเงื่อนไขในประเทศ” บริษัทแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ-สวีเดนระบุ
กระทรวงสาธารณสุขระบุในแถลงการณ์ชี้แจงถึงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน การตกเลือด และเกล็ดเลือดต่ำ
องค์การยาแห่งยุโรประบุในสัปดาห์ที่แล้วว่า พบความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนของแอสตราเซเนกาและลิ่มเลือดอุดตันในสมอง แต่ชี้ว่าความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโควิด-19 มีมากกว่าความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากผลข้างเคียงของวัคซีน ดังนั้น จังเป็นเรื่องแต่ละประเทศต้องตัดสินใจประเมินความเสี่ยงกันเองว่าจะใช้วัคซีนตัวนี้หรือไม่
หลายประเทศในยุโรป และประเทศอื่นๆในโลก กลับมาใช้วัคซีนตัวนี้อีก แต่จำกัดการใช้งานกับประชาชนเฉพาะกลุ่ม โดยส่วนใหญ่ฉีดให้ผู้ที่มีอายุ 50 ปี หรือ 60 ปีขึ้นไป
รมว.บรอสต์รอมระบุว่า ผลการศึกษาร่วมระหว่างข้อมูลสาธารณสุขของเดนมาร์กกับนอร์เวย์ประเมินว่า 1 ใน 40,000 คนที่ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาอาจเกิดภาวะเหล่านี้ได้ โดยไม่สามารถสรุปเรื่องอายุ หรือเพศได้
ทั้งนี้ เดนมาร์กเป็นประเทศแรกที่ประกาศระงับการใช้งานวัคซีนของแอสตราเซเนกาในเดือนมี.ค.จากประเด็นความกังวลเรื่องความปลอดภัย
เดนมาร์กมีการฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชนเกือบ 1 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ 5.8 ล้านคน ด้วยวัคซีนของ บ.ไฟเซอร์ – ไบออนเทค 77% , วัคซีนของ บ.โมเดอร์นา 7.8% และ วัคซีนของ บ.แอสตราเซเนกา 15.3%
โดยเดนมาร์กอยู่ในระหว่างการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม หลังจากอัตราการติดเชื้อลดลงมาอยู่ที่ 500 – 600 ราย ต่อวัน จากเดิมหลายพันคนต่อวันในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว