ตลาดหุ้นโลกยังไม่ห่วงสหรัฐฯ/เกาหลีเหนือ
ความตึงเครียดทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ หลังจากผู้นำสหรัฐฯเตือนเกาหลีเหนือว่าจะต้องประสบกับไฟและความโกรธเกรี้ยวจากสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือโต้กลับด้วยการเผยแผนการที่จะถล่มฐานทัพสหรัฐฯบนเกาะกวม
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นทั่วโลกและในสหรัฐฯเองยังคงสงบและไม่มีท่าทีกังวลใดๆ
ขณะที่ตลาดที่ปลอดภัยในการพักเงินอย่างตลาดทองคำทะยานพุ่งขึ้นติดลมบน ดัชนี CBOE Volatility ลดลงมากกว่า 16% ในปีนี้ และดัชนี Dow และ S&P 500 ลดลงน้อยกว่า 0.5% ในการซื้อขายเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา
“ความคิดเกี่ยวกับการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ดูจะห่างไกล หรือเป็นนามธรรมเกินไป นักลงทุนส่วนใหญ่จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับความเป็นไปได้นี้เท่าไร” Jim Paulsen หัวหน้านักกลยุทธ์ในการลงทุนประจำ Leuthold Group กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี
เขากล่าวว่าความเคลื่อนไหวของตลาดในตอนนี้มีขีดจำกัดในเรื่องความสนใจในพาดหัวข่าวของเทรดเดอร์ โดยมองสถานการณ์นี้ว่า เป็นการตะคอกใส่กันไปมาระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ซึ่งต่างก็มีแรงล้นเหลือในการตะคอกกันทั้งคู่
แต่หากวิกฤตเกิดขึ้นจริง นักลงทุนจะขานรับอย่างไร ?
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ทีมนักลงทุนที่ Columbia Threadneedle ซึ่งบริหารจัดการสินทรัพย์ประมาณ 467,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เผยแพร่คำแนะนำต่อนักลงทุนถึงสิ่งที่ควรทำเมื่อข่าวพาดหัวกระทบตลาด
โพสต์นี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายบนเว็บไซต์ที่แชร์ผลวิจัยของ Harvest Exchange
โดยบริษัทแนะนำว่า การหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาที่อ่อนไหวเปราะบางเป็นเรื่องสำคัญเมื่อตัดสินใจว่าจะย้ายเงินลงทุนมากขึ้นเพื่อขานรับกับสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ และนักลงทุนควรถามตัวเองด้วย 3 คำถามสำคัญคือ
- มีมหาอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
- มีปัจจัยเสี่ยงเรื่องราคาน้ำมันหรือไม่
- มีปัจจัยเสี่ยงต่อระบบการเงินทั่วโลกหรือไม่
Paulsen เชื่อว่าสถานการณ์ของสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น แต่กล่าวว่าตลาดเงินจะเริ่มมีปฏิกิริยาเพิ่มขึ้นว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อ หรือมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น โดยที่ไม่มีใคร หรืออะไรมาปลดชนวนความขัดแย้งนี้ได้
ทาง Columbia Threadneedle โพสต์เตือนว่า สิ่งที่สำคัญคือ การรู้ว่าเมื่อไรที่ควรรอถึงผลกระทบระยะสั้นจากข่าวพาดหัวที่เต็มไปด้วยความผกผัน
“ตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ามารับตำแหน่ง คำพูดไร้สาระของเขากลายเป็นเรื่องปกติ และมีคนให้ความสำคัญน้อย และเขาก็มาพบกับคำพูดคุยโวไร้สาระยิ่งกว่าจากเกาหลีเหนือ” Paulsen กล่าว.